พายุเข้า เตือนด่วน 46 จว. ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าหลาก 30 ส.ค. - 2 ก.ย.

พายุเข้า เตือนด่วน 46 จว. ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าหลาก 30 ส.ค. - 2 ก.ย.

พายุเข้า ฝนตกหนัก ปภ. เตือนด่วน 46 จังหวัด พื้นที่ภาคเหนือ-อีสาน-กลาง-ใต้ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ดินโคลนถล่ม คลื่นลมแรง ช่วงวันที่ 30 ส.ค. - 2 ก.ย. 68

วันนี้ (30 ส.ค. 68) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประกาศเตือน 46 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง ดินโคลนถล่ม และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 30 ส.ค. - 2 ก.ย. 68

 

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยงอย่างใกล้ชิด ประกอบกับ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้มีประกาศฉบับที่ 2 (225/2568) ประกาศ ณ วันที่ 29 ส.ค. 68 เรื่อง พายุดีเปรสชัน และ ฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณประเทศไทย ระบุว่า ในช่วงวันที่ 30 ส.ค. - 1 ก.ย. 68 พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงเย็นวันที่ 30 ส.ค. 68

อิทธิพลพายุ จะทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก และมีลมแรง บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ระหว่างวันที่ 30 ส.ค. - 2 ก.ย. 68 ดังนี้

 

พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง ดินโคลนถล่ม

วันที่ 30 สิงหาคม 2568

  • ภาคเหนือ (จังหวัดแพร่ น่าน อุตรดิตถ์ และจังหวัดเพชรบูรณ์)
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี
  • ภาคกลาง (จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด)
  • ภาคใต้ (จังหวัดชุมพร ระนอง พังงา และจังหวัดภูเก็ต)

วันที่ 31 สิงหาคม 2568

  • ภาคเหนือ (จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ และจังหวัดอุทัยธานี)
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และจังหวัดมุกดาหาร)
  • ภาคกลาง (จังหวัดลพบุรี สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และจังหวัดตราด)
  • ภาคใต้ (จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และจังหวัดภูเก็ต)

วันที่ 1 กันยายน 2568

  • ภาคเหนือ (จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ และจังหวัดอุทัยธานี)
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ และจังหวัดมุกดาหาร)
  • ภาคกลาง (จังหวัดลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์)
  • ภาคใต้ (จังหวัดชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต และจังหวัดกระบี่)

พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม - 2 กันยายน 2568

ภาคกลาง

  • จังหวัดชลบุรี (อำเภอเมืองชลบุรี ศรีราชา เกาะสีชัง บางละมุง และอำเภอสัตหีบ)
  • จังหวัดระยอง (อำเภอเมืองระยอง บ้านฉาง และอำเภอแกลง)
  • จังหวัดจันทบุรี (อำเภอนายายอาม ท่าใหม่ แหลมสิงห์ และอำเภอขลุง)
  • จังหวัดตราด (อำเภอเมืองตราด แหลมงอบ คลองใหญ่ เกาะช้าง และอำเภอเกาะกูด)

ภาคใต้

  • จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองระนอง สุขสำราญ และอำเภอกะเปอร์)
  • จังหวัดพังงา (อำเภอเกาะยาว ตะกั่วทุ่ง ท้ายเหมือง ตะกั่วป่า และอำเภอคุระบุรี)
  • จังหวัดภูเก็ต (ทุกอำเภอ)

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสานแจ้งจังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้ โดยได้กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ได้อย่างถูกต้องและปฏิบัติตนได้อย่างปลอดภัยเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น

ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยขอให้ติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยรายพื้นที่ได้ที่แอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android รวมถึงทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews

ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ ปภ.รับแจ้งเหตุ1784 โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป

พายุเข้า เตือนด่วน 46 จว. ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าหลาก 30 ส.ค. - 2 ก.ย.