เตรียมรับมือ! เตือน 35 จว. เฝ้าระวังน้ำท่วม น้ำป่า ดินถล่ม 30 ส.ค. - 3 ก.ย.

เตรียมรับมือ! ปภ. แจ้งเตือน 35 จว. 'เหนือ-อีสาน-กลาง-ใต้-กทม.' เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ช่วงวันที่ 30 ส.ค. - 3 ก.ย. 68
ประกาศล่าสุด วันนี้ (29 ส.ค. 68) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 35 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ดินโคลนถล่ม ในช่วงวันที่ 30 ส.ค. - 3 ก.ย. 68
โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยงอย่างใกล้ชิด ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) มีประกาศฉบับที่ 19/2568 ลงวันที่ 28 ส.ค. 2568 แจ้งว่า จากการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ และได้ประเมินวิเคราะห์สภาพอากาศและสถานการณ์น้ำพบว่ามีพื้นที่บางส่วนต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ เนื่องจากระบายไม่ทัน โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ระหว่างวันที่ 30 ส.ค. - 3 ก.ย. 68 ดังนี้
พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ดินโคลนถล่ม
ภาคเหนือ (8 จังหวัด)
- แม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ปาย ขุนยวม และอำเภอแม่สะเรียง)
- เชียงใหม่ (อำเภอแม่แจ่ม ฝาง แม่อาย และอำเภออมก๋อย)
- เชียงราย (อำเภอเมืองเชียงราย แม่สาย เชียงของ เชียงแสน เวียงชัย เวียงเชียงรุ้ง พญาเม็งราย เทิง แม่จัน และอำเภอดอยหลวง)
- น่าน (อำเภอ ท่าวังผา บ่อเกลือ ปัว ภูเพียง แม่จริม เวียงสา และอำเภอสันติสุข)
- อุตรดิตถ์ (อำเภอน้ำปาด)
- ตาก (อำเภอท่าสองยาง แม่ระมาด แม่สอด พบพระ และอำเภออุ้มผาง)
- พิษณุโลก (อำเภอเมืองพิษณุโลก ชาติตระการ นครไทย และอำเภอเนินมะปราง)
- เพชรบูรณ์ (อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ เขาค้อ วังโป่ง และอำเภอหล่มเก่า)
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (15 จังหวัด)
- เลย (อำเภอเมืองเลย เชียงคาน นาแห้ว และอำเภอปากชม)
- หนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย ท่าบ่อ ศรีเชียงใหม่ และอำเภอสระใคร)
- หนองบัวลำภู (อำเภอศรีบุญเรือง)
- อุดรธานี (อำเภอบ้านดุง พิบูลย์รักษ์ เพ็ญ และอำเภอสร้างคอม)
- สกลนคร (อำเภอเมืองสกลนคร วานรนิวาส และอำเภออากาศอำนวย)
- นครพนม (อำเภอเมืองนครพนม ศรีสงคราม ท่าอุเทน และอำเภอบ้านแพง)
- ชัยภูมิ (อำเภอเมืองชัยภูมิ เกษตรสมบูรณ์ และอำเภอคอนสวรรค์)
- ขอนแก่น (อำเภอเมืองขอนแก่น)
- มหาสารคาม (อำเภอเมืองมหาสารคาม)
- กาฬสินธุ์ (อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ยางตลาด ฆ้องชัย กมลาไสย และอำเภอร่องคำ)
- ร้อยเอ็ด (อำเภอเมืองร้อยเอ็ด เสลภูมิ พนมไพร และอำเภออาจสามารถ)
- ยโสธร (อำเภอเมืองยโสธร คำเขื่อนแก้ว และอำเภอเลิงนกทา)
- อำนาจเจริญ (อำเภอเมืองอำนาจเจริญ ชานุมาน เสนางคนิคม และอำเภอหัวตะพาน)
- นครราชสีมา (อำเภอครบุรี โนนแดง บัวลาย บัวใหญ่ ประทาย ปากช่อง เมืองยาง และอำเภอสีดา)
- อุบลราชธานี (อำเภอเมืองอุบลราชธานี เขมราฐ เขื่องใน เดชอุดม ตระการพืชผล ตาลสุม บุณทริก พิบูลมังสาหาร ศรีเมืองใหม่ สว่างวีระวงศ์ และอำเภอสิรินธร)
ภาคกลาง (8 จังหวัด)
- นครนายก (อำเภอเมืองนครนายก บ้านนา และอำเภอปากพลี)
- ปราจีนบุรี (อำเภอเมืองปราจีนบุรี นาดี และอำเภอประจันตคาม)
- สระแก้ว (อำเภอเมืองสระแก้ว โคกสูง ตาพระยา และอำเภอวัฒนานคร)
- ชลบุรี (อำเภอบางละมุง และอำเภอศรีราชา)
- ระยอง (อำเภอเมืองระยอง บ้านค่าย ปลวกแดง และอำเภอนิคมพัฒนา)
- จันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี แก่งหางแมว และอำเภอขลุง)
- ตราด (อำเภอเมืองตราด เกาะกูด เขาสมิง คลองใหญ่ และอำเภอบ่อไร่)
- กรุงเทพมหานคร
ภาคใต้ (5 จังหวัด)
- ชุมพร (อำเภอเมืองชุมพร พะโต๊ะ และอำเภอหลังสวน)
- สุราษฎร์ธานี (อำเภอบ้านตาขุน)
- ระนอง (อำเภอเมืองระนอง กระบุรี กะเปอร์ และอำเภอสุขสำราญ)
- พังงา (อำเภอเมืองพังงา กะปง คุระบุรี ตะกั่วป่า ทับปุด และท้ายเหมือง)
- ภูเก็ต (ทุกอำเภอ)
พื้นที่เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุเก็บกัก
บริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก เลย บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ นครพนม มุกดาหาร นครราชสีมา ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง สุราษฎร์ธานี และกระบี่ โดยขอให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ เขื่อนนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก ให้สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบน้อยต่อประชาชนน้อยที่สุด
พื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ
บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของแม่น้ำสาย บริเวณอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย แม่น้ำอิงบริเวณอำเภอเชียงคำ เทิง พญาเม็งราย ขุนตาล และอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย แม่น้ำยม บริเวณอำเภอเมืองแพร่ สอง และอำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ อำเภอเมืองสุโขทัย และอำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก แม่น้ำน่าน บริเวณอำเภอเมืองน่าน และอำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์แม่น้ำแควน้อย บริเวณอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ลำน้ำยัง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
พื้นที่เฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงเปลี่ยนแปลง เนื่องจากมีปริมาณฝนตกสะสม
บริเวณสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้ม ส่งผลกระทบพื้นที่จังหวัดริมแม่น้ำโขง ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
พื้นที่เฝ้าระวังกิจกรรมการใช้น้ำและการสัญจรทางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา
บริเวณจังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ
สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยรายพื้นที่ได้ที่แอปพลิเคชัน 'THAI DISASTER ALERT' ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android รวมถึงทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews
ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ 'ปภ.รับแจ้งเหตุ1784' โดยเพิ่มเพื่อน Line ID : @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 (ตลอด 24 ชั่วโมง) เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป







