ออมสิน ชี้แจงด่วน 3 ข้อ ปมคิดดอกเบี้ยเงินกู้พักหนี้โควิด โต้คลิปว่อน

ธนาคารออมสิน ชี้แจงด่วน ย้ำ 3 ข้อ ปมคิดดอกเบี้ยเงินกู้มาตรการพักหนี้โควิด โต้มีลูกหนี้สินเชื่อรายหนึ่งได้จัดทําและเผยแพร่คลิป บนสื่อสังคมออนไลน์ติดต่อกันหลายครั้ง
ธนาคารออมสิน ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีการกล่าวหา ธนาคารคิดดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มเติม ระหว่างมาตรการพักหนี้โควิด ตามที่มีลูกหนี้สินเชื่อรายหนึ่งได้จัดทําและเผยแพร่คลิปบนสื่อสังคมออนไลน์ติดต่อกันหลายครั้ง
กล่าวหาว่า ออมสิน คิดดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มเติมในช่วงมาตรการพักชําระหนี้โควิดนั้น ข้อกล่าวหาดังกล่าว เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และก่อให้เกิดความสับสนต่อสาธารณชน ธนาคารขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้
1. ปี 2563 ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาตรการขั้นต่ําให้ทุกสถาบันการเงิน พักชําระเงินต้น 3 เดือน อย่างไรก็ดี ธนาคารออมสินได้ออกมาตรการช่วยเหลือที่มากกว่า โดยได้ออก มาตรการ "พักชําระเงินต้นและดอกเบี้ยอัตโนมัติ รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 9 เดือน" เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ให้กับลูกหนี้ทุกรายในช่วงสถานการณ์โควิดแพร่ระบาดระยะแรก
ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกหนี้ขาดรายได้และสังคมต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่าง จําเป็นต้องงดเว้นการติดต่อสัมผัสใกล้ชิด โดยมีการ ประชาสัมพันธ์ข่าวสารผ่านสื่อต่าง ๆ ในวงกว้าง รวมถึงช่องทางของธนาคาร และการแจ้งผ่านแอป MyMo ไปถึงลูกหนี้ทุกราย พร้อมแจ้งวิธีปฏิบัติในกรณีที่ลูกหนี้ไม่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการ ตลอดจน รายละเอียดต่าง ๆ ของมาตรการ ซึ่งรวมถึงวิธีการพักชําระเงินต้นและดอกเบี้ย
2. ทั้งนี้ ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในช่วงดังกล่าว ไม่ใช่ดอกเบี้ยใหม่หรือดอกเบี้ยเพิ่ม แต่เป็นดอกเบี้ยปกติที่พักการชําระไว้ และจะไปชําระในงวดสุดท้ายของสัญญาเงินกู้ ส่วนลูกหนี้ที่ได้แจ้งว่าไม่ประสงค์เข้าร่วม มาตรการ สามารถชําระเงินงวดได้ตามปกติ โดยเงินงวดนั้นจะนําไปตัดเป็นเงินต้นทั้งจํานวน เพื่อลดภาระหนี้ของลูกหนี้ได้เร็วขึ้น
3. ธนาคารได้ชี้แจงทําความเข้าใจกับลูกหนี้รายดังกล่าว ในประเด็นเรื่องวิธีการบันทึกบัญชีลูกหนี้ การพัก ชําระเงินต้น การพักชําระดอกเบี้ย การชําระคืนเมื่อครบกําหนด และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ลูกหนี้เข้าใจ และขอความร่วมมือให้ยุติการเผยแพร่คลิปที่ขยายผลความเข้าใจผิด ซึ่งเป็นการกระทําที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านพฤติกรรมของลูกหนี้ และสร้างความเสียหายต่อธนาคาร
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ลูกหนี้รายดังกล่าวได้รับทราบข้อเท็จจริงแล้ว รวมถึงธนาคารได้เสนอทางเลือกอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ เช่น การผ่อนชําระดอกเบี้ย แต่ลูกหนี้ยังคงยืนยันที่จะไม่ชําระหนี้ส่วนที่เป็นดอกเบี้ย ค้างชําระ และยังคงเผยแพร่คลิปที่สื่อไปในทางกดดัน ต่อรองให้ธนาคารงดเว้นการเรียกเก็บดอกเบี้ย ที่พักชําระไว้ตามสัญญาเงินกู้ที่ลูกหนี้ได้ทํากับธนาคารเท่านั้น
ธนาคารขอเรียนย้ำว่า ธนาคาร ไม่สามารถลดดอกเบี้ยตามที่ร้องขอให้กับลูกหนี้รายใดรายหนึ่งเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากต้องรักษาสิทธิและให้ความเป็นธรรมต่อลูกหนี้สถานะปกติทุกรายที่ได้ชําระหนี้ตามเงื่อนไขสัญญาเดียวกัน โดยไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งได้แจ้งให้ลูกหนี้รายดังกล่าวทราบจุดยืนของธนาคารแล้ว
ทั้งนี้ หากพบว่ายังมีการเผยแพร่ข้อความหมิ่นประมาทหรือบิดเบือน ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงหรือทําให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการดําเนินงานของธนาคารหรือวัตถุประสงค์ของมาตรการช่วยเหลือ ลูกหนี้ ขอเรียนว่า ธนาคารจําเป็นต้องพิจารณาดําเนินการทางกฎหมาย เพื่อยุติการกระทําดังกล่าวและรักษาความเชื่อมั่นของลูกค้าประชาชนที่มีต่อจุดยืนของธนาคาร





