'พายุคาจิกิ' ถล่ม 12 จังหวัด เส้นทางขาด-ระบบสื่อสารล่ม!

อิทธิพล "พายุคาจิกิ" ทำ 12 จังหวัดอ่วมหนัก! ปภ. เร่งประสานทุกหน่วยงานฟื้นฟูพื้นที่ หลังเส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด และระบบสื่อสารล่ม พร้อมระดมกำลังช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
วันนี้ (28 ส.ค. 68) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้จัดการประชุมเพื่อติดตามและเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มที่เกิดจากอิทธิพลของพายุ "คาจิกิ" โดยมี นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธาน
สถานการณ์และผลกระทบจากพายุ "คาจิกิ"
ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2568 จนถึงปัจจุบัน (28 ส.ค. 68 เวลา 06.00 น.) พายุ "คาจิกิ" ส่งผลกระทบต่อ 12 จังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ เลย และนครพนม ทำให้เกิดอุทกภัยและดินสไลด์ใน 28 อำเภอ 76 ตำบล 238 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 1,808 ครัวเรือน หรือ 6,354 คน และมีผู้เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และสูญหาย 7 ราย
ปัจจุบันยังมีสถานการณ์ที่ต้องเฝ้าระวังใน 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน และอุตรดิตถ์ ซึ่งบางพื้นที่ยังคงประสบปัญหา เช่น เส้นทางคมนาคมและสะพานที่ถูกน้ำป่ากัดเซาะในจังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมถึงระดับน้ำที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในจังหวัดแพร่และสุโขทัย
ปภ. สั่งการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือประชาชน
นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดี ปภ. ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเร่งดำเนินการเพื่อคลี่คลายสถานการณ์และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ดังนี้
- ฟื้นฟูเส้นทางคมนาคมและระบบสื่อสาร : ให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อซ่อมแซมเส้นทางที่ถูกตัดขาด ติดตั้งป้ายเตือน และจัดเส้นทางเลี่ยงที่ปลอดภัย รวมถึงเร่งแก้ไขปัญหาระบบสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็ว
- ดูแลด้านการดำรงชีพ : จัดตั้งโรงครัวเพื่อประกอบอาหารและแจกจ่ายถุงยังชีพให้ได้มาตรฐานในพื้นที่ประสบภัย
- จัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือ : ขอให้จังหวัดตรวจสอบเงินทดรองราชการ หากไม่เพียงพอให้รวบรวมข้อมูลเพื่อขออนุมัติขยายวงเงินมายัง ปภ. โดยเร็ว
- สร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง : ให้พื้นที่สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์และช่องทางการขอความช่วยเหลือ พร้อมทั้งชี้แจงและแก้ไขข่าวปลอม (Fake news) ที่อาจสร้างความสับสนแก่ประชาชน
นอกจากนี้ สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ให้ระดมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรเข้าทำความสะอาดพื้นที่และสำรวจความเสียหายเพื่อเยียวยาผู้ประสบภัยตามระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุด ส่วนจังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์อยู่ ให้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรให้พร้อมปฏิบัติงานตลอดเวลา
ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ดังกล่าวสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Line Official Account “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” (Line ID @1784DDPM) หรือ สายด่วนนิรภัย 1784







