'พายุคาจิกิ' สลาย จับตามวลน้ำอุตรดิตถ์-แพร่ เสริมลุ่มน้ำยม-น่าน

'พายุคาจิกิ' สลาย จับตามวลน้ำอุตรดิตถ์-แพร่ เสริมลุ่มน้ำยม-น่าน

กรมชลประทาน และ กฟผ. ผนึกกำลังบริหารจัดการน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ขณะที่รัฐบาลเร่งช่วยผู้ประสบภัยดินสไลด์ในเชียงใหม่ กำชับทุกหน่วยงานเตรียมรับมือพายุช่วงเดือน ก.ย.

วันนี้ (27 ส.ค. 2568) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำล่าสุดว่า พายุ “คาจิกิ” ได้อ่อนกำลังลงและสลายตัวแล้ว แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในช่วง 1-2 วันนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสมจะเริ่มไหลลงสู่ลุ่มน้ำต่าง ๆ

สถานการณ์ลุ่มน้ำยม - น่าน

นายประเสริฐ ระบุว่า พื้นที่ลุ่มน้ำยมและลุ่มน้ำน่านมีแนวโน้มที่ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะบริเวณท้ายเขื่อนสิริกิติ์ เนื่องจากมวลน้ำจากอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ไหลลงมาสมทบกับน้ำในแม่น้ำน่าน ประกอบกับระดับน้ำในแม่น้ำยมที่จังหวัดแพร่ได้เพิ่มสูงขึ้นด้วย
 

เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์น้ำในพื้นที่ดังกล่าว การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และกรมชลประทานจึงได้หารือร่วมกันและมีมติให้ปรับลดการระบายน้ำของเขื่อนสิริกิติ์ลงเหลือ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวัน จากเดิม 50 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 26 - 31 สิงหาคมนี้ พร้อมทั้งจะติดตามสถานการณ์เพื่อปรับแผนการระบายน้ำให้เหมาะสมต่อไป

นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้บริหารจัดการน้ำในเขื่อนต่าง ๆ ให้สอดคล้องกัน ทั้งเขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ และเขื่อนนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก โดยปัจจุบันเขื่อนผาจุกระบายน้ำในอัตรา 580 ลบ.ม. ต่อวินาที และเขื่อนนเรศวรระบายน้ำในอัตรา 835 ลบ.ม. ต่อวินาที เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรในจังหวัดอุตรดิตถ์ พิษณุโลก และพิจิตร ที่กำลังได้รับผลกระทบจากน้ำในแม่น้ำน่านล้นตลิ่ง

สถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยา

ในส่วนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์อยู่ที่ 1,598 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งลดลงจากเมื่อวานนี้ (26 ส.ค.) ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยายังคงระบายน้ำในอัตรา 1,300 ลบ.ม. ต่อวินาที โดยนายประเสริฐได้เน้นย้ำให้กรมชลประทานแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ด้านท้ายน้ำอย่างต่อเนื่อง

เหตุการณ์ดินสไลด์ที่จังหวัดเชียงใหม่

รัฐบาลยังแสดงความเป็นห่วงประชาชนที่ประสบเหตุดินสไลด์รุนแรงที่บ้านปางอุ๋ง ตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เนื่องจากมีฝนตกสะสมกว่า 78.5 มิลลิเมตรใน 24 ชั่วโมง ทำให้มีผู้บาดเจ็บและบ้านเรือนเสียหาย

หน่วยงานท้องถิ่นและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและนำส่งไปยังโรงพยาบาลเทพรัตนเวชชานุกูล เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา พร้อมจัดตั้งทีมแพทย์ดูแลรักษาอย่างเต็มที่ ซึ่งนายประเสริฐได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบทุกครัวเรือนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

สุดท้าย นายประเสริฐได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ เพื่อรับมือสถานการณ์ที่ได้รับอิทธิพลจากพายุ “คาจิกิ” โดยเร็ว และยังคงต้องเตรียมพร้อมรับมือการก่อตัวของพายุในช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายนอย่างไม่ประมาท เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนให้ได้มากที่สุด