สทนช. พร้อมรับมือ 'พายุคาจิกิ' มั่นใจไม่ท่วมรุนแรงเหมือนปี 54

รองนายกฯ ประเสริฐ เปิดศูนย์อุตุ ติดตามพายุ "คาจิกิ" 24 ชั่วโมง สั่ง สทนช. บูรณาการทุกหน่วยรับมือเต็มกำลัง ย้ำไม่ท่วมรุนแรงเหมือนปี 54
วันนี้ (25 ส.ค. 68) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เปิดเผยว่า รัฐบาลได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนักจากอิทธิพลของ "พายุคาจิกิ" โดยได้เปิด ศูนย์ปฏิบัติการติดตามสถานการณ์พายุ ที่กรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อเฝ้าระวังและแจ้งเตือนสถานการณ์แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง
พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ใช้กลไกของ ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า ในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงเหนือ ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ และลุ่มน้ำยม-น่าน ซึ่งมีความเสี่ยงสูง เพื่อเร่งระบายน้ำในลำน้ำและอ่างเก็บน้ำที่ได้รับอิทธิพลจากพายุ “วิภา” ก่อนหน้านี้ เพื่อสร้างพื้นที่รองรับน้ำเพิ่มเติม และบริหารจัดการน้ำอย่างรอบคอบเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน
เปรียบเทียบสถานการณ์น้ำปี 2568 กับมหาอุทกภัยปี 2554
นายประเสริฐได้เปรียบเทียบสถานการณ์น้ำในปีนี้กับเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในปี 2554 โดยชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างที่สำคัญ ดังนี้:
จำนวนพายุ : ปี 2554 ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากพายุถึง 5 ลูก ขณะที่ในปี 2568 ได้รับอิทธิพลจากพายุแล้ว 2 ลูก คือ พายุ “วิภา” และพายุ “คาจิกิ”
ปริมาณน้ำในเขื่อน : ในเดือนสิงหาคม 2554 เขื่อนขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ มีน้ำใกล้เต็มความจุแล้ว ในทางกลับกัน ปี 2568 เขื่อนขนาดใหญ่ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกมาก โดยเขื่อนภูมิพลยังรองรับน้ำได้กว่า 4,300 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนสิริกิติ์ยังรองรับได้อีกกว่า 1,700 ล้านลูกบาศก์เมตร
การระบายน้ำ : ปริมาณน้ำสูงสุดในลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์เมื่อปี 2554 สูงถึง 4,689 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา 3,726 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งสูงกว่าปี 2568 ที่คาดการณ์ปริมาณน้ำสูงสุดที่นครสวรรค์ 1,605 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาเพียง 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งยังต่ำกว่าระดับที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำ
นายประเสริฐ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและเรียนรู้จากบทเรียนในปี 2554 เป็นอย่างดี จึงได้มีการบริหารจัดการน้ำอย่างเต็มที่ และขอให้ประชาชนมั่นใจว่าสถานการณ์ในปีนี้จะไม่รุนแรงเท่ากับปี 2554 อย่างแน่นอน







