น้ำเหนือหลาก! กรมชลฯ รับมือพายุ 'คาจิกิ' กระทบลุ่มต่ำเจ้าพระยา

น้ำเหนือหลาก! กรมชลฯ รับมือพายุ 'คาจิกิ' กระทบลุ่มต่ำเจ้าพระยา

กรมชลประทาน เร่งรับมือน้ำเหนือหลาก อิทธิพล "พายุคาจิกิ" ที่จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย พร้อมปรับแผนจัดการน้ำลดผลกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา

วันนี้ (25 ส.ค. 68) กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา หลังพายุโซนร้อน คาจิกิ (KAJIKI) กำลังจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย โดยคาดการณ์ว่าจะทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน

จากสถานการณ์ล่าสุด พายุ "คาจิกิ" จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศลาวในช่วงเช้าวันที่ 26 สิงหาคม 2568 ก่อนจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดน่านในช่วงเย็นวันเดียวกัน ทำให้ช่วงวันที่ 25-27 สิงหาคม 2568 ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักและลมแรง ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำจากตอนบนไหลลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยามากขึ้น
 

เพื่อเป็นการรับมือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น กรมชลประทานได้ดำเนินการดังนี้:

  • ผันน้ำเข้าระบบชลประทาน : เร่งรับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเข้าสู่ระบบชลประทานทั้งสองฝั่งตามศักยภาพของคลอง เพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับน้ำ
  • ปรับการระบายน้ำ : ปรับลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาลงอยู่ที่ 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
  • เร่งระบายน้ำลงทะเล : เร่งระบายน้ำจากท้ายเขื่อนลงสู่อ่าวไทยให้เร็วที่สุดเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน

ปัจจุบัน (เวลา 06.00 น. วันที่ 25 ส.ค. 68) ปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานี C.2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ อยู่ที่ 1,605 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
 

จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำและพื้นที่เสี่ยงภัย โปรดติดตามสถานการณ์และประกาศเตือนจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากมีการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำและปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา กรมชลประทานจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งโดยเร็วที่สุด