'พายุคาจิกิ' มาแน่! มท. สั่ง 76 จังหวัด เตรียมรับมือฝนหนัก-น้ำท่วม
"ภูมิธรรม" สั่งด่วน ผู้ว่าฯ ทั่วประเทศตั้งวอร์รูมรับมือพายุโซนร้อน "คาจิกิ" ทำให้เกิดฝนตกหนัก ช่วง 24-27 ส.ค. 68 พร้อมกำชับให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (24 ส.ค. 68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยถึงสถานการณ์ พายุโซนร้อน กำลังแรง "คาจิกิ" (KAJIKI) ซึ่งกำลังเคลื่อนตัวอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มุ่งหน้าเข้าสู่ประเทศเวียดนาม โดยคาดว่าจะมีกำลังแรงขึ้นเมื่อเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะอ่อนกำลังลงหลังจากขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 25-26 สิงหาคมนี้
อิทธิพลพายุคาจิกิ ดังกล่าวจะส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ รวมถึงมีลมแรงในช่วงวันที่ 24-27 สิงหาคม 2568 โดยพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
กระทรวงมหาดไทยสั่งการเตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง พร้อมทั้งจัดตั้ง War room ร่วมกับทุกจังหวัด เพื่อประเมินสถานการณ์พายุและเตรียมความพร้อมรับมือหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น
มาตรการที่ได้สั่งการให้ดำเนินการ ได้แก่
- การอพยพและดูแลประชาชน
- ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และผู้บริหารท้องถิ่นดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ ทั้งการอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย และดูแลปัจจัยพื้นฐานสำหรับประชาชนในพื้นที่ที่มักเกิดน้ำท่วมซ้ำซาก
- ในพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก ให้มีการเตรียมความพร้อมโดยการขุดลอกและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ
- การจัดการโครงสร้างและสิ่งปลูกสร้าง
- ให้ประสานกับเจ้าของป้ายขนาดใหญ่หรือสิ่งปลูกสร้างที่มีความสูงให้ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง หากพบว่าอาจก่อให้เกิดอันตราย ให้เร่งทำการรื้อถอน
- การแจ้งเตือนและป้องกันข่าวปลอม
- ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แจ้งเตือนประชาชนผ่านหอกระจายข่าวและช่องทางสื่อสารต่าง ๆ ของหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและปฏิบัติตามคำแนะนำของภาครัฐ
- ระมัดระวังข่าวปลอมที่อาจเกิดขึ้นจากผู้ไม่ประสงค์ดี
- การดูแลพื้นที่ชายฝั่ง
- สำหรับจังหวัดที่มีพื้นที่ติดทะเลทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ให้ติดตามสถานการณ์คลื่นลมอย่างใกล้ชิด
- หากพบว่าคลื่นสูงให้ปักธงสัญลักษณ์ห้ามนักท่องเที่ยวหรือประชาชนเล่นน้ำ และพิจารณาการเดินเรือทุกประเภท
- หากมีเรือออกไปแล้วและสถานการณ์รุนแรงขึ้น ให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำเรือเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัย
นายภูมิธรรม กล่าวทิ้งท้ายว่า กระทรวงมหาดไทยมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน และพร้อมดำเนินการดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง โดยประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารหรือขอความช่วยเหลือได้ผ่าน สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง