สวยห้ามจับ 'มังกรทะเลสีน้ำเงิน' สัตว์มีพิษร้าย เตือนนักท่องเที่ยวระวัง

สวยห้ามจับ 'มังกรทะเลสีน้ำเงิน' สัตว์มีพิษร้าย โผล่หาดกะรน จ.ภูเก็ต เตือนนักท่องเที่ยวเล่นน้ำให้ระวัง พบมากหลังฝนตก เช็กอาการเมื่อโดนพิษ - วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น
วันนี้ (22 ส.ค. 68) นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เตือนประชาชน และนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวัง หลังจากที่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน (ศวอบ.) ได้รับแจ้งรายงานจากกลุ่มเครือข่ายและเจ้าหน้าที่ life guard ว่าพบเห็น 'มังกรทะเลสีน้ำเงิน' (Blue Dragon) ถูกคลื่นซัดขึ้นชายฝั่งบริเวณหาดกะรน จังหวัดภูเก็ต
ซึ่งเป็นสัตว์มีพิษจำพวกทากทะเลสีน้ำเงิน ชนิด Glaucilla sp. ที่มีพฤติกรรมการกินแมงกะพรุนที่มีพิษเป็นอาหาร โดยเฉพาะ 'แมงกะพรุนหัวขวด' (Bluebottle Jellyfish) ที่นำเข็มพิษของแมงกะพรุนมาสะสมไว้ในตัวเพื่อป้องกันตัวเอง หากสัมผัสจะเกิดอาการเจ็บปวดเหมือนโดนเข็มพิษของแมงกะพรุน มีอาการปวดแสบปวดร้อน ระคายเคืองผิวหนัง หรือผื่นแดง
เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจถึงความปลอดภัยในการท่องเที่ยว รัฐบาล ขอย้ำเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยว หากพบ มังกรทะเล (Blue Dragon) หรือหากลงเล่นน้ำทะเลแล้วมีอาการปวดแสบปวดร้อน ขอให้ปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. รีบขึ้นจากน้ำทะเล และรีบขอความช่วยเหลือ พร้อมโทรแจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน 1669
2. ให้ผู้บาดเจ็บอยู่นิ่งๆ และห้ามขัดถูบริเวณที่สัมผัส เนื่องจากการเคลื่อนไหวอาจเป็นการกระตุ้นการสัมผัสพิษมากขึ้น
3. ใช้น้ำส้มสายชูความเข้มข้น 4-6% ที่ใช้ในครัวเรือนทั่วไป ราดบริเวณที่สัมผัสต่อเนื่องอย่างน้อย 30 วินาที (ห้ามราดด้วยน้ำจืด น้ำเปล่า หรือแอลกอฮอล์) เพื่อให้เข็มพิษหลุดเช่นเดียวกับโดนแมงกะพรุน
4. หากผู้บาดเจ็บหากอาการไม่ดีขึ้น ให้รีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
นายอนุกูล ระบุต่อว่า ความปลอดภัยในการท่องเที่ยวถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการบาดเจ็บจากสัตว์มีพิษในทะเล อาทิ หอยเม่น ปลากระเบน มังกรทะเลสีน้ำเงิน และแมงกะพรุนมีพิษชนิดต่างๆ ขอให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสวมสัตว์เสื้อผ้ามิดชิดก่อนลงเล่นน้ำ และไม่ควรเล่นน้ำหลังฝนตก พร้อมทั้งสังเกตจุดวางน้ำส้มสายชูและป้ายแจ้งเตือน
โดยหากมีการพบซากของมังกรทะเลสีน้ำเงิน และแมงกะพรุนอยู่ตามชายหาด ขอให้งดเล่นน้ำ หรือลงเล่นน้ำในบริเวณปลอดภัยที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้เท่านั้น นอกจากนี้ ควรปฏิบัติตามคำเตือนของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
อ้างอิง/ภาพ ฉุกเฉินการแพทย์







