โดนหลอกรวมกัน 30 ล้าน ลวงลงทุนเทรดหุ้น อายัด1.2 ล้าน คืนผู้เสียหาย

ภัยออนไลน์ โดนหลอกรวมกันโอนเงินกว่า 30 ล้าน กลโกงลวงลงทุนเทรดหุ้น อายัด 1.2 ล้าน คืนผู้เสียหาย
กรณีตำรวจไซเบอร์ ช่วยเหยื่อภัยออนไลน์ ชาวปักษ์ใต้ โดนหลอก รวมกันสูญกว่า 30 ล้าน อายัดทัน 1.2 ล้าน นำคืนผู้เสียหาย 3 ราย
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว “MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.28-30” ตำรวจไซเบอร์ ช่วยเหยื่อโจรออนไลน์ชาวปักษ์ใต้ โดนหลอกรวมกันสูญกว่า 30 ล้าน อายัดทัน 1.2 ล้าน นำคืนผู้เสียหาย 3 ราย
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดดำเนินการตามโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน” โดยก่อนหน้านี้ สามารถจับกุมเครือข่ายบัญชีม้า ของขบวนการหลอกลวงออนไลน์ และสามารถติดตามนำคืนให้แก่ผู้เสียหายตามขั้นตอนในโครงการ “MONEY CASH BACK” ไปแล้วหลายครั้ง รวมจำนวนเงินกว่า 231 ล้านบาท
โดยล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์สามารถติดตามเงินของผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงให้โอนเงินเพิ่มเติมได้อีก จำนวน 5 ราย
กรณีที่ 1 ผู้เสียหายเป็นหญิงชาวภูเก็ตรายหนึ่ง ได้ถูกชักชวนจากเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันบนเฟซบุ๊ก ชักชวนให้หารายได้พิเศษ เป็นการกดเพิ่มสินค้าให้เว็บไซต์ โดยต้องโอนเงินไปสํารองก่อนจึงจะได้รับค่าตอบแทน ต่อมาได้ถูกหลอกให้โอนเงินเพิ่มเรื่อยๆ รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 220,260.27 บาท
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.5 สามารถจับกุมตัวบัญชีม้าในขบวนการดังกล่าวได้ พร้อมประสานธนาคารเพื่อขออายัดเงินที่ถูกหลอกลวงไว้ได้ จำนวน 70,449.27 บาท โดยผู้ต้องหาไม่โต้แย้งในกรรมสิทธิ์ และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชีตามจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหาย
กรณีที่ 2 ผู้เสียหายรายหนึ่งเป็นหญิงวัย 57 ปี ชาว อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยเริ่มต้นผู้เสียหายถูกหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินไปประมาณ 5 ล้านบาท
ต่อมา ผู้เสียหายได้พบเพจเฟซบุ๊กปลอมที่แอบอ้างเป็นตำรวจไซเบอร์ โดยอ้างว่าสามารถดึงเงินจากคนร้ายที่หลอกลวงผู้เสียหายกลับคืนมาได้ ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อ
จึงได้ทำตามขั้นตอนต่างๆ ที่คนร้ายแนะนำ พร้อมกับโอนเงินไปยังบัญชีคนร้ายเพิ่มอีกหลายครั้ง รวมเป็นเงินประมาณ 25 ล้านบาท รวมแล้วผู้เสียหายโดนหลอกลวงเงินไปทั้งสิ้นกว่า 30 ล้านบาท
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.5 สามารถจับกุมตัวบัญชีม้าในขบวนการดังกล่าวได้ พร้อมประสานธนาคารเพื่อขออายัดเงินที่ถูกหลอกลวงไว้ได้ จำนวน 1 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาไม่โต้แย้งในกรรมสิทธิ์ และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชีตามจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหาย
กรณีที่ 3 ผู้เสียหายรายหนึ่งเป็นหญิงชาว จ.พัทลุง ได้รับสายโทรศัพท์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างว่าเป็นการไฟฟ้า อ้างว่าจะเปลี่ยนมิเตอร์ไฟให้เป็นแบบดิจิทัล เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ คนร้ายจึงแนะนำให้ทำตามขั้นตอนที่แจ้ง เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีผู้เสียหาย จำนวน 1,951,230 บาท
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.5 สามารถจับกุมตัวบัญชีม้าในขบวนการดังกล่าวได้ พร้อมประสานธนาคาร เพื่อขออายัดเงินที่ถูกหลอกลวงไว้ได้ จำนวน 210,074 บาท โดยผู้ต้องหาไม่โต้แย้งในกรรมสิทธิ์ และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชีตามจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหาย
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตามคดี จึงได้ร่วมกันนำเงิน จำนวน 1,280,523.27 บาท คืนให้แก่ผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ตามโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน”
cr.ตำรวจไซเบอร์







