เขื่อนเจ้าพระยา เร่งพร่องน้ำ พื้นที่ท้ายน้ำระวังน้ำท่วมฉับพลัน

เขื่อนเจ้าพระยา เร่งพร่องน้ำ พื้นที่ท้ายน้ำระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กรมชลประทาน เร่งระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อเตรียมรับมือน้ำเหนือ ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้น ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงควรเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน

วันนี้ (18 ส.ค. 68) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนัก ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำน่านสูงขึ้นจนเอ่อล้นตลิ่งในบางพื้นที่ของจังหวัดอุตรดิตถ์

เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จึงปรับลดการระบายน้ำของเขื่อนสิริกิติ์ จากเดิม 55 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวัน เหลือ 48.6 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน ขณะเดียวกัน กรมชลประทาน ได้เพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา จากเดิม 1,100 ลบ.ม. ต่อวินาที เป็น 1,150 ลบ.ม. ต่อวินาที ตั้งแต่เวลา 18.00-21.00 น. ของวันนี้ เพื่อลดผลกระทบในพื้นที่เหนือเขื่อน และเป็นการพร่องน้ำเพื่อรองรับน้ำฝนระลอกใหม่ด้วย

การเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาครั้งนี้จะส่งผลให้มีน้ำเอ่อท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ บริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง และบริเวณตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา, ตำบลลาดชิด, ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่, คลองบางบาล, และแม่น้ำน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่จะไม่กระทบพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ กรมชลประทานได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบล่วงหน้าแล้ว
 

รัฐบาลแสดงความห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดและทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ เพื่อบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมกับสถานการณ์ รวมถึงเร่งคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว พร้อมทั้งฟื้นฟูเยียวยาความเสียหาย นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำให้มีการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำล่วงหน้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนสามารถเตรียมพร้อมรับมือได้อย่างทันท่วงที และช่วยลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินให้ได้มากที่สุด