จับตา! ฝนเพิ่มช่วงปลายสัปดาห์ เตือนพื้นที่ท้ายน้ำเฝ้าระวัง

วันนี้(18 ส.ค.68) ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) อาคาร 99ปี หม่อมหลวงชูชาติ กำภู กรมชลประทาน ถนนสามเสน นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตลอดจนสำนักงานชลประทานที่ 1 -17 และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง  เข้าร่วมประชุม  เพื่อติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แม่น้ำสายหลักต่างๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุ
 

โดย กรมชลประทาน เปิดเผยว่าสถานการณ์น้ำในปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถบริหารจัดการได้ โดยได้มีการเตรียมพร้อมรับมือกับฝนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์นี้

สถานการณ์น้ำโดยรวมและลุ่มน้ำเจ้าพระยา

ทั่วประเทศ: ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศมีปริมาณน้ำรวมกัน 50,534 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 66% ของความจุอ่างฯ ซึ่งยังสามารถรองรับน้ำได้อีก 25,972 ล้านลูกบาศก์เมตร

ลุ่มน้ำเจ้าพระยา: เขื่อนหลัก 4 แห่ง ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำรวมกัน 17,300 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 70% ของความจุอ่างฯ และยังสามารถรับน้ำได้อีก 7,571 ล้านลูกบาศก์เมตร
 

เนื่องจากช่วงนี้มีฝนตกเพิ่มขึ้น ทำให้มีน้ำไหลเข้าอ่างฯ อย่างต่อเนื่อง กรมชลประทานจึงได้สั่งการให้โครงการชลประทานทั่วประเทศเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปรับการระบายน้ำให้เหมาะสมโดยไม่กระทบพื้นที่ท้ายน้ำ พร้อมทั้งเตรียมแผนเผชิญเหตุและประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าหากจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำ

การบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา

ขณะนี้มีปริมาณน้ำจากทางตอนบนและฝนที่ตกในพื้นที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดเมื่อเวลา 06.00 น. ที่สถานีวัดระดับน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 1,488 ลูกบาศก์เมตร/วินาที

เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่รองรับน้ำ กรมชลประทานได้ผันน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่ง และทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้เป็น 1,100 ลูกบาศก์เมตร/วินาที

การเตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนัก

จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าระหว่างวันที่ 22 - 23 สิงหาคมนี้ ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

กรมชลประทาน จึงได้กำชับให้ทุกพื้นที่เตรียมพร้อมรับมืออย่างเข้มงวดตาม 9 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2568 โดยให้ตรวจสอบอาคารชลศาสตร์และกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งกำหนดพื้นที่เสี่ยงและจัดเตรียมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรเพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที ตามข้อสั่งการของ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนให้ได้มากที่สุด