จับผู้กองกองร้อยปอยเปต แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หมายจับศาลจังหวัดตะกั่วป่า

จับผู้กองกองร้อยปอยเปต แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หมายจับศาลจังหวัดตะกั่วป่า

ตำรวจนครบาลบุกจับผู้กองแห่งกองร้อยปอยเปต แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หมายจับศาลจังหวัดตะกั่วป่า คดีเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน

กรณีตำรวจนครบาล บุกจับผู้กอง แห่งกองร้อยปอยเปต แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หมายจับศาลจังหวัดตะกั่วป่า 

พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) , พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. , พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.๒ ,พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส.,พ.ต.อ.ปกรณ์กิตติ์ ธนวรินทร์กุล ผกก.3 บก.สอท.2,พ.ต.ท.วรปรัชญ์ วุฑฒิรักษ์,พ.ต.ท.มโรดม์ ขวัญเมือง,พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รอง ผกก.กก.ดส., พ.ต.ต.ยศชนินทร์ ประเสริฐโสภา สว.กก.ดส.

ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาชาย อายุ 24 ปี สัญชาติไทย ตามหมายจับของศาลจังหวัดตะกั่วป่า ที่ จ.51/2568 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2568 

โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน

  • เป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน
  • เป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
  • ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบและข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตนเอง และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด

สืบเนื่องจากตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีการเร่งรัดติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับคดีเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นำโดย พ.ต.ต.ยศชนินทร์ ประเสริฐโสภา สว.กก.ดส. จึงได้ออกสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหา

จับผู้กองกองร้อยปอยเปต แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หมายจับศาลจังหวัดตะกั่วป่า

จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับได้หลบหนีการจับกุมมาบริเวณศูนย์การค้าอินโดจีน จ.สระแก้ว จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจนกระทั่งพบตัวผู้ต้องหาดังกล่าว

พ.ต.ต.ยศชนินทร์ ประเสริฐโสภา สว.กก.ดส. กล่าวว่า พฤติการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้จะลวงว่าเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ และหลอกลวงให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบโทรศัพท์มือถือและคนร้ายจะทำการโอนเงินจากบัตรเครดิตและบัญชีธนาคารของผู้เสียหายไปยังบัญชีของคนร้าย

จากการสอบถามผู้ต้องหาให้ข้อมูลว่า ตนขอปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เนื่องจากตนโดนหลอกให้ไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนจีนเป็นนายจ้างมาสแกนใบหน้าตนและมีการใช้ AI ปลอมแปลงใบหน้าตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจไปหลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่อ 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดส.จึงได้ทำการจับกุมและนำผู้ต้องหาส่ง กก.3 บก.สอท.2 เพื่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการดำเนินคดีตามกฎหมาย