วางแผนสู้! ฝนถล่มหนัก ช่วง 15-18 ส.ค. เล็งใช้ทุ่งรับน้ำเจ้าพระยา

สทนช. ประชุมด่วนรับมือฝนตกหนัก เตรียมพร่องน้ำ เขื่อนสิริกิติ์ พร้อมใช้ ทุ่งรับน้ำเจ้าพระยา เป็นพื้นที่แก้มลิง ป้องกันน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่
วันนี้ (14 ส.ค. 56) ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 11/2568 เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 เพื่อรับมือสถานการณ์ฝนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามข้อสั่งการของนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งมีความห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน
จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) พบว่า ในช่วงวันที่ 14-18 สิงหาคม 2568 ประเทศไทยจะมีฝนตกต่อเนื่อง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้ สทนช. ต้องออกประกาศเตือนให้พื้นที่ดังกล่าวเฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง และระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่อาจสูงขึ้นในช่วงวันที่ 15-17 สิงหาคม 2568
แผนบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา
ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาแผนบริหารจัดการน้ำในกลุ่มลุ่มน้ำเจ้าพระยาใหญ่ เพื่อรองรับสถานการณ์ที่กำลังจะมาถึง โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้:
พื้นที่ลุ่มต่ำหน่วงน้ำ
- ทุ่งบางระกำ : เตรียมพร้อมรับน้ำเข้าตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2568
- ทุ่งรับน้ำ 10 ทุ่งในภาคกลาง : จะพร้อมรับน้ำได้หลังวันที่ 15 กันยายน 2568
การบริหารจัดการเขื่อน
- เขื่อนสิริกิติ์ : ปัจจุบันมีปริมาณน้ำสูงถึง 7,911 ล้านลูกบาศก์เมตร (83% ของความจุ) ที่ประชุมจึงมีมติให้คงอัตราการระบายน้ำที่ 55 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ไปจนถึงวันที่ 2 กันยายนนี้ เพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับน้ำที่จะไหลเข้าเขื่อนเพิ่มเติมในอนาคต
- เขื่อนตอนล่าง: มีการวางแผนเร่งระบายน้ำจากเขื่อนผาจุก เขื่อนนเรศวร และเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อให้สอดคล้องกับการระบายน้ำจากเขื่อนตอนบน โดยต้องไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำและต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเขื่อน
- เขื่อนที่มีน้ำน้อย : เช่น เขื่อนลำตะคอง ที่คาดการณ์ว่าจะมีน้ำน้อยในช่วงเดือนพฤศจิกายน ได้มีการปรับลดแผนการระบายน้ำเพื่อเก็บกักไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึง
นอกจากนี้ เลขาธิการ สทนช. ยังเปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ขอให้กรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ จัดทำข้อมูลคาดการณ์ปริมาณฝนล่วงหน้า 7 วัน และปรับปรุงข้อมูลทุกวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ สามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบการบริหารจัดการน้ำได้อย่างทันท่วงที โดยมีเป้าหมายหลักคือ การลดผลกระทบจากอุทกภัยให้ได้มากที่สุด และในขณะเดียวกันก็ต้องมีการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งให้ได้มากที่สุดเช่นกัน
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าประเทศไทยยังมีโอกาสเกิดพายุได้อีก 1-2 ลูก ในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม ซึ่ง สทนช. จะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
ในตอนท้าย ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการจัดทำผังน้ำลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำโขงเหนือ และลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนบน เพื่อเตรียมเสนอต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) พิจารณา ก่อนจะประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาต่อไป







