ไขปมร้อน ที่ดินวัด วัดมีที่ดินพันไร่ ได้หรือไม่ ซื้อที่มีขั้นตอน

ไขปมร้อน ที่ดินวัด วัดมีที่ดินพันไร่ ได้หรือไม่ คลังสารสนเทศรัฐสภา ย้ำวัดซื้อที่ดินไม่ได้ตามใจ มีขั้นตอน ซื้อที่มากเกิน ต้องขออนุญาตใคร? อุบาสก สีกา อุบาสิกา ต้องรู้
ไขข้อสงสัย ประเด็นร้อนสังคมไทย ปม "ที่ดินวัด" วัดมีที่ดินพันไร่ ได้หรือไม่ ล่าสุด คลังสารสนเทศรัฐสภา ย้ำวัดซื้อที่ดินไม่ได้ตามใจ ต้องมีขั้นตอน หากต้องการซื้อที่มากเกินกฎหมายกำหนด ต้องขออนุญาตใครบ้าง? อุบาสก สีกา อุบาสิกา ต้องรู้ด้วย ก่อนถวายที่ดิน ให้เป็นสมบัติของวัด
ประเด็นร้อนที่สังคมไทยกำลังจับตามองอย่างใกล้ชิดในขณะนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง "ที่ดินวัด" ที่กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง หลังมีข่าวลือสะพัดว่า "วัดดัง" บางวัดครอบครองที่ดินมากถึง 2,000 ไร่ ทำให้ประชาชนเกิดคำถามและข้อสงสัยว่าเรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถือครองที่ดินของวัดนั้นมีรายละเอียดอย่างไร
ล่าสุด คลังสารสนเทศรัฐสภา โดยสำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จึงได้ออกมาให้ข้อมูลที่น่าสนใจผ่านเพจเฟซบุ๊ก "PRT : คลังสารสนเทศรัฐสภา" เพื่อไขข้อข้องใจให้กับประชาชน โดยระบุอย่างชัดเจนว่า "วัดซื้อที่ดินไม่ได้ตามใจ ต้องมีขั้นตอน" ซึ่งเป็นการชี้ให้เห็นว่าการได้มาซึ่งที่ดินของวัดนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมาย ไม่ใช่จะสามารถทำได้อย่างอิสระ
คลังสารสนเทศรัฐสภา ได้อธิบายขั้นตอนการได้มาซึ่งที่ดินของวัดอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการ ซื้อ รับบริจาค หรือได้มาโดยวิธีอื่นใด วัดจะต้องยื่นเรื่องขออนุญาตจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งเป็นข้อบังคับที่หลายคนอาจยังไม่ทราบมาก่อน
นอกจากนี้ ยังมีการกำหนด จำนวนที่ดินสูงสุด ที่วัดสามารถถือครองได้ โดยปกติกฎหมายกำหนดไว้ ไม่เกิน 50 ไร่ แต่หากมีเหตุผลความจำเป็นพิเศษ วัดอาจได้รับอนุญาตให้ถือครองที่ดินเกินกว่าที่กำหนดได้
แต่หากจำนวนที่ดินที่ต้องการถือครอง เกินกว่า 100 ไร่ ขั้นตอนก็จะมีความซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะวัดที่อยู่ในต่างจังหวัด จะต้องผ่านการพิจารณาและเห็นชอบจาก สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และ ผู้ว่าราชการจังหวัด (ซึ่งปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย) ด้วยเช่นกัน
วัดมีสถานะเป็น นิติบุคคล และสามารถมีที่ดินได้ 3 ประเภท
เพื่อให้เข้าใจเรื่องที่ดินของวัดได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น คลังสารสนเทศรัฐสภายังได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประเภทของที่ดินที่วัดสามารถถือครองได้ ซึ่งมีทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่
ที่วัด
- ใช้ประโยชน์โดยตรงกับกิจการของวัด เช่น ที่ตั้งอุโบสถ ศาลาการเปรียญ
ที่ธรณีสงฆ์
- ที่ดินที่วัดครอบครองเพื่อหารายได้เลี้ยงวัด เช่น ให้เช่าทำการค้า
ที่กัลปนา
- ที่ดินที่มีผู้ถวายให้เป็นสมบัติของวัด เพื่อใช้ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นคำตอบสำคัญที่ช่วยคลี่คลายข้อสงสัยและสร้างความกระจ่างให้แก่สังคมว่า การได้มาซึ่งที่ดินของวัดนั้นมีกฎหมายและระเบียบที่ควบคุมอยู่ เพื่อให้การถือครองที่ดินของวัดเป็นไปอย่างถูกต้องและโปร่งใส
อ้างอิง : ประมวลกฎหมายที่ดิน, พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505, หนังสือ ที่ มท 0515/ว 24645 เรื่อง การขอได้มาซึ่งที่ดินของวัดวาอาราม ตามมาตรา 84 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2548 , คลังสารสนเทศรัฐสภา







