คมนาคม ดัน สนามบินอุบลฯ ฮับการบินอีสาน ยกระดับสู่สนามบินนานาชาติ

วันนี้ (12 ส.ค. 68) นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงานที่ท่าอากาศยานอุบลราชธานี เพื่อติดตามมาตรการความปลอดภัยและเตรียมความพร้อมในการยกระดับท่าอากาศยานให้เป็นสนามบินนานาชาติ พร้อมสั่งการให้ปรับปรุงอาคารผู้โดยสารและจัดเตรียมพื้นที่สำหรับด่านตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เพื่อดึงดูดสายการบินให้มาเปิดเส้นทางบินใหม่ สนับสนุนการพัฒนาจังหวัดอุบลราชธานีให้เป็นศูนย์กลางการบินของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตามนโยบายรัฐบาล

โดยเมื่อวานที่ผ่านมา (11 ส.ค. 68) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ได้เยี่ยมชมศูนย์ควบคุมการบินอุบลราชธานี และรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการเฝ้าระวังสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยในส่วนของบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ได้เน้นย้ำให้เร่งพัฒนาเทคโนโลยีและบุคลากรเพื่อสนับสนุนการเป็นศูนย์กลางการบิน และบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงให้การสนับสนุนภารกิจการช่วยเหลือผู้ประสบภัย

นอกจากนี้ นางมนพรยังได้กำชับให้กรมท่าอากาศยาน (ทย.) และ บวท. เข้มงวดมาตรการด้านความมั่นคง โดยเฉพาะการควบคุมการใช้โดรนในเขตสนามบิน การเพิ่มความถี่ในการตรวจการณ์ และการซ้อมแผนฉุกเฉินร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้โดยสารและท่าอากาศยานมีความปลอดภัยสูงสุด

นายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานอุบลราชธานีมีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารได้ 1,050 คนต่อชั่วโมง หรือ 3 ล้านคนต่อปี และสามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ได้ถึง 5 ลำ ปัจจุบันมีเที่ยวบินภายในประเทศให้บริการจากทั้งสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิหลายสายการบิน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งรถเช่า รถแท็กซี่ และรถซิตี้บัส

สำหรับ แผนพัฒนาในปี 2568 กรมท่าอากาศยาน ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย เช่น การติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธและวัตถุระเบิดแบบ Dual View X-Ray และกล้องตรวจการแบบ Panorama รวมถึงยานพาหนะตรวจจับสิ่งแปลกปลอมบนทางวิ่ง (FOD Vehicle) เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ใช้บริการและบุคลากรทุกคน