เปิดแผนระบายน้ำ 'เขื่อนนเรศวร' หลังฝนตกตอนบน หวั่นซ้ำรอยน้ำท่วม

เปิดแผนระบายน้ำ 'เขื่อนนเรศวร' หลังฝนตกตอนบน หวั่นซ้ำรอยน้ำท่วม

รองนายกฯ "ประเสริฐ จันทรรวงทอง" สั่งเร่งระบายน้ำ "เขื่อนนเรศวร" เป็น 52 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน ลดผลกระทบน้ำท่วมซ้ำซาก หลังพบฝนตกหนักตอนบน คาดว่าจะตกต่อเนื่อง

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำ ในลุ่มน้ำน่านอย่างใกล้ชิด พบว่า เขื่อนนเรศวรได้เพิ่มอัตราการระบายน้ำจาก 49 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็น 52 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2568 เพื่อให้สอดรับกับการระบายน้ำของเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนผาจุก

การดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้ระดับน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตรลุ่มต่ำของอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ อำเภอตรอน และอำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ลดลงได้ถึง 20 เซนติเมตร ซึ่งช่วยบรรเทาผลกระทบแก่ประชาชนในเบื้องต้น
 

กำชับติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เตรียมรับมือฝนตกหนัก นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประสานงานกับกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด เพื่อบริหารจัดการน้ำของเขื่อนนเรศวรและเขื่อนอื่น ๆ ในแนวแม่น้ำน่านให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

โดยต้องคำนึงถึงความสมดุลของปริมาณน้ำทั้งบริเวณเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน เพื่อลดผลกระทบต่อชุมชนและพื้นที่การเกษตรในจังหวัดอุตรดิตถ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
 

ในส่วนของสถานการณ์ฝนตกหนัก นายประเสริฐ ระบุว่า เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2568 มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ทางตอนบนของประเทศ เช่น จังหวัดเชียงราย 110 มิลลิเมตร จังหวัดเชียงใหม่ 84 มิลลิเมตร จังหวัดน่าน 70 มิลลิเมตร และจังหวัดตราด 133 มิลลิเมตร และคาดว่าในช่วง 2-3 วันนี้ จะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก จันทบุรี และตราด

ดังนั้น จึงได้สั่งการให้ สทนช. ใช้กลไกของศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและรายงานผลการดำเนินงานให้รัฐบาลทราบอย่างต่อเนื่อง