เปิดแผนพร่องน้ำ 'เขื่อนสิริกิติ์' รับมือฝนหนัก กลางเดือน ส.ค.นี้

สทนช. ร่วมกับ กฟผ. และกรมชลประทาน วางแผนบริหารจัดการน้ำเขื่อนสิริกิติ์ เตรียมเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำ รับมือฝนระลอกใหม่ช่วงกลางเดือน ส.ค.นี้
วันนี้ (11 ส.ค. 68) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ กรมชลประทาน (ชป.) จัดประชุมหารือแนวทางการบริหารจัดการน้ำใน เขื่อนสิริกิติ์ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนักที่คาดว่าจะมาถึงในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ ตามข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรี ประเสริฐ จันทรรวงทอง
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้มีจุดประสงค์หลักเพื่อปรับแผนการระบายน้ำของเขื่อนสิริกิติ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างในเขื่อนสำหรับรองรับน้ำฝนที่จะตกหนักขึ้น ซึ่งปัจจุบันเขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำสูงถึง 84% ของความจุเก็บกัก เหลือพื้นที่รองรับน้ำได้อีกเพียง 1,500 ล้านลูกบาศก์เมตร
ก่อนหน้านี้ เขื่อนสิริกิติ์ได้ลดการระบายน้ำลงเพื่อช่วยหน่วงน้ำในลุ่มน้ำน่านและบรรเทาผลกระทบจากพายุโซนร้อน "วิภา" ซึ่งทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
เพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้และเตรียมพร้อมสำหรับฝนรอบใหม่ ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้ปรับเพิ่มการระบายน้ำของ เขื่อนนเรศวร ซึ่งเป็นเขื่อนที่อยู่ใต้เขื่อนสิริกิติ์ เพื่อช่วยลดระดับน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่การเกษตรบางส่วนของจังหวัดอุตรดิตถ์ และส่งน้ำส่วนเกินเข้าสู่พื้นที่ชลประทานในเวลาเดียวกัน
ส่วนเขื่อนสิริกิติ์นั้น ยังคงอัตราการระบายน้ำไว้ที่ 55 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ทุกหน่วยงานจะติดตามสถานการณ์ฝนอย่างใกล้ชิด หากมีฝนตกหนักบริเวณท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น ก็จะพิจารณาปรับลดการระบายน้ำลงอีกครั้งเพื่อป้องกันผลกระทบต่อประชาชน







