เจ้าพ่อเงินกู้ดอกโหด ยืม 2 หมื่น จ่ายคืน 131,500 บาท ยังไม่หมดหนี้

เจ้าพ่อเงินกู้ดอกโหด ยืม 2 หมื่น จ่ายคืน 131,500 บาท ยังไม่หมดหนี้

ตำรวจนครบาล ลุยจับเจ้าพ่อเงินกู้ดอกโหด ยืม 2 หมื่น จ่ายคืน 131,500 บาท ยังไม่หมดหนี้

กรณีตำรวจนครบาล ลุยจับเจ้าพ่อเงินกู้ดอกโหด ยืม 2 หมื่น จ่ายคืน 131,500 บาท ยังไม่หมดหนี้

ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก กรุงเทพฯ ได้รับแจ้งว่ามีเสี่ยชายไทย มีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้ (เจ้าหนี้นอกระบบ) โดยผู้แจ้ง แจ้งว่า เมื่อประมาณวันที่ 20 พ.ย. 67 ได้กู้เงินจำนวน 26,000 บาท กับผู้ต้องหา ได้เรียกเก็บเงินดอกเบี้ยเป็นจำนวน 500 บาท ต่อวัน

โดยผู้แจ้งได้ชำระดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวนดังกล่าวเรื่อยมา ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. 67 จนถึงปัจจุบัน (9 ส.ค. 68 ) ผู้แจ้งคิดว่าเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยที่จ่ายมานั้น ครบตามกำหนดไปเรียบร้อยแล้ว

แต่ผู้ต้องหายังตามมาเรียกเก็บดอกเบี้ยจากตนเองอีก ทำให้ผู้แจ้งได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากถูกเอารัดเอาเปรียบ และเกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อตนเองและบุคคลที่เกี่ยวข้อง จึงได้เข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม

หลังได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบ และได้ร่วมกันวางแผนจับกุมตัว โดยได้นำธนบัตรเพื่อใช้เป็นหลักฐานให้ผู้แจ้งเพื่อส่งมอบในการชำระค่าดอกเบี้ยให้กับผู้ถูกจับ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำกำลังไปจุดซุ่ม เพื่อวางแผนจับกุม

หลังจากนั้น ผู้ต้องหาได้โทรหาผู้แจ้ง โดยแจ้งว่า ตนเองมาถึงบริเวณทางเดินเท้าหน้าวัดที่นัดหมายกัน และให้ผู้แจ้งนำเงินสดมามอบให้ เมื่อผู้แจ้งมาถึงบริเวณดังกล่าว จึงได้นำเงินสดจำนวน 250 บาท ตามที่ได้ลงประจำวันข้างต้นไว้แล้ว ส่งมอบให้กับผู้ต้องหา

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขออนุญาตทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ ธนบัตรดังกล่าวอยู่ในมือของนายเชียงผู้ถูกจับถืออยู่

ขณะถูกตรวจค้นจับกุมตัวซึ่งผู้ต้องหา ยอมรับว่าธนบัตรดังกล่าว เป็นธนบัตรที่ชำระในการกู้เงิน เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 67 เป็นจำนวนเงินรวม 26,000 บาท และได้เก็บเงินดอกเบี้ยเป็นจำนวนเงิน 500 บาทต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. 67 จนถึงปัจจุบัน ( 9 ส.ค.68 )

โดยผู้ถูกจับรับว่าเป็นเงินกู้ซึ่งเป็นลูกค้ากู้ยืมเงินไปจริง และกำลังเดินทางมาเก็บเงินจากผู้กู้เงินดังกล่าว จึงตรวจยึดเป็นของกลาง ทำให้รวบเจ้าพ่อเงินกู้ดอกโหด ยืม 2 หมื่นกว่าบาท จ่ายคืนแล้ว 131,500 บาทก็ยังไม่หมดหนี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้สอบถามว่าได้รับอนุญาตประกอบกิจการปล่อยเงินกู้หรือไม่ ผู้ถูกจับให้การว่าไม่ได้ขออนุญาตประกอบกิจการแต่อย่างใดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา “พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 มาตรา 4 (1) เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้”

ควบคุมตัวพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย