ยึดทรัพย์เงินสด 46 ล้าน ฟอกเงินข้ามชาติ Huione Pay ถอนเดือนละพันล้าน

ยึดทรัพย์เงินสด 46 ล้าน ฟอกเงินข้ามชาติ Huione Pay ถอนเดือนละพันล้าน

เปิดปฏิบัติการ ยึดทรัพย์เงินสด 46 ล้าน! ตำรวจบุกทลายแก๊งฟอกเงินข้ามชาติ ผ่าน Huione Pay กลุ่มผู้ต้องหามีการถอนเงินสดกว่าเดือนละ 1,000 ล้านบาท

กรณีเปิดปฏิบัติการ ยึดทรัพย์เงินสด 46 ล้าน! ตำรวจบุกทลายแก๊งฟอกเงินข้ามชาติ ผ่าน Huione Pay

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา สัญชาติเมียนมา 3 ราย โดยจับกุมได้ บริเวณบ้านพัก ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ กก.3 บก.ปอท. ว่าถูกมิจฉาชีพใช้เพจเฟซบุ๊ก การลงทุนเทรดหุ้น ชักชวนให้เข้ากลุ่ม Line ซึ่งมีสมาชิกจำนวนมาก

ยึดทรัพย์เงินสด 46 ล้าน ฟอกเงินข้ามชาติ Huione Pay ถอนเดือนละพันล้าน

จากนั้นจะมีหน้าม้าในกลุ่มคอยแจ้งว่าสามารถเทรดได้กำไรและถอนเงินได้จริง โดยผู้เสียหายใช้เวลาในการดูในกลุ่มอยู่ประมาณ 2-3 เดือน ก่อนตัดสินใจลงทุน

แอดมินกลุ่มจะให้เข้ากลุ่ม VIP และติดต่อผ่าน Line Officail ก่อนที่จะให้โหลดแอปพลิเคชันปลอม ชื่อ Ulela Max และโอนเงินเพื่อลงทุนเทรดหุ้น โดยจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 10 %

 

ช่วงแรกๆ ผู้เสียหายได้โอนเงินไปยังบัญชีม้านิติบุคคลหลักแสนบาท พบว่าสามารถถอนเงินพร้อมกำไรได้จริง จึงได้โอนเพิ่มขึ้นเป็นหลักล้านบาทอีกหลายครั้ง ไปยังบัญชีม้านิติบุคคล จำนวน 4 บัญชี และ บัญชีม้าบุคคล จำนวน 8 บัญชี รวม 18 ครั้ง เป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท

ยึดทรัพย์เงินสด 46 ล้าน ฟอกเงินข้ามชาติ Huione Pay ถอนเดือนละพันล้าน

โดยใช้เวลาในการโอนและลงทุนดังกล่าวกว่า 2 เดือน ก่อนจะรู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพหลอกและไม่สามารถถอนเงินได้  จึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอท.

จากการสืบสวนรวบรวมข้อมูล เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ได้ทำการสืบสวนตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าหลังจากที่บัญชีม้าต่างๆได้รับเงินแล้ว จะมีการเปลี่ยนเงินผ่านแพลตฟอร์มของไทย จากนั้นจะโอนกลับไป กลับมาเพื่อให้ยากต่อการติดตาม โดยพบว่าบัญชีม้าทั้งหมดมีการทำรายการที่ตึกออฟฟิศในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา และมีการโอนไปยัง Wallet ของ Huione Pay ของประเทศกัมพูชา เพื่อฟอกเงิน ก่อนจะถูกโอนต่อไปยัง Wallet ของผู้รับผลประโยชน์อีกจำนวนหลาย Wallet ก่อนจะโอนมาให้กับกลุ่มผู้ต้องหาในคดีนี้ที่เป็นชาวเมียนมา

ยึดทรัพย์เงินสด 46 ล้าน ฟอกเงินข้ามชาติ Huione Pay ถอนเดือนละพันล้าน

รวมถึงมีการเปลี่ยนเป็นเงินสดผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ และExchange ของไทย เพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสดเข้าบัญชีธนาคารไทยของกลุ่มผู้ต้องหา และไปถอนเงินสดที่ธนาคารในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก วันละประมาณ 20-30 ล้านบาท

โดยเมื่อถอนเงินแล้วจะนำเงินสดให้ชายเมียนมา ขนข้ามชายแดนบริเวณด่าน ตม.แม่สอด ไปส่งยังฝั่งเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา โดยพบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการถอนเงินสดกว่าเดือนละ 1,000 ล้านบาท

ตำรวจ บก.ปอท. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้รวม 28 คน โดยเป็นกลุ่มบัญชีม้า จำนวน 24 คน และ ชาวเมียนมา ผู้รับผลประโยชน์จำนวน 4 คน

 

และได้นำหมายค้นศาลจังหวัดแม่สอด ที่ 1165/2568 เพื่อเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมาย ผลการตรวจค้น ได้จับกุมผู้ต้องหาชาวเมียนมาจำนวน 3 ราย

และตรวจยึดเงินสดของกลางจำนวนรวมกว่า 46 ล้านบาท  นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสอบถามคำให้การเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา

  1. ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น
  2. ร่วมกันเป็นอั้งยี่
  3. โดยทุจริตหรือหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่ความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา
  4. สมคบโดยการตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน
  5. ร่วมกันฟอกเงิน

ยึดทรัพย์เงินสด 46 ล้าน ฟอกเงินข้ามชาติ Huione Pay ถอนเดือนละพันล้าน

การปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ประดิษฐ์ เปการี, พ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากย์, พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ รอง ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.3 บก.ปอท. และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด

อ้างอิง ตำรวจสอบสวนกลาง