'เขื่อนสิริกิติ์' ยังแข็งแกร่ง รับมือมวลน้ำจากภาคเหนือเต็มที่

เขื่อนสิริกิติ์ ยังคงทำหน้าที่รับมือน้ำหลากจากภาคเหนืออย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดผลกระทบต่อพื้นที่ตอนล่าง และ กฟผ. ร่วมกับกรมชลประทานบริหารจัดการน้ำอย่างใกล้ชิด
กรมชลประทาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยืนยันว่า เขื่อนสิริกิติ์ ยังคงทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำน่านอย่างมีประสิทธิภาพ โดยล่าสุดได้ช่วยรองรับมวลน้ำจากพื้นที่ตอนบนได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้สามารถบรรเทาสถานการณ์น้ำหลากและลดผลกระทบต่อพื้นที่ตอนล่างในจังหวัดพิษณุโลก พิจิตร และนครสวรรค์ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ปัจจุบัน สถานการณ์ฝนในพื้นที่ต้นน้ำเริ่มคลี่คลายและมีปริมาณลดลงอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทานและ กฟผ. จึงได้ร่วมกันติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) เพื่อปรับแผนการระบายน้ำของเขื่อนสิริกิติ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง โดยจะระบายน้ำในปริมาณที่เหมาะสมและไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน พร้อมกับคงพื้นที่ว่างในอ่างเก็บน้ำไว้เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่อาจจะเข้ามาเพิ่มเติมตลอดช่วงฤดูฝนนี้
หน่วยงานทั้งสองยังคงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริหารจัดการน้ำเชิงรุก เพื่อให้มั่นใจได้ว่าประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำตอนล่างจะปลอดภัยจากปัญหาน้ำท่วมและมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ
ข้อควรระวังสำหรับประชาชน : ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำหรือริมแม่น้ำติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อโครงการชลประทานในพื้นที่ หรือสายด่วนกรมชลประทาน โทร. 1460 ตลอด 24 ชั่วโมง







