ป.ป.ช.-DSI ลุยสอบนายทุนรุกที่ป่าแก่งกระจาน 4 พันไร่ เสียหาย 100 ล.

ป.ป.ช.ลงพื้นทติดตาม คดีบุกรุกอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สนธิกำลังหลายหน่วยงาน บุกจับนายทุนรุกที่ป่า 4,000 ไร่ ชง 'ดีเอสไอ' เตรียมรับเป็นคดีพิเศษ เสียหายกว่า 100 ล้าน
เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2568 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 7 ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดประชุมหารือประเด็นกรณีมีการบุกรุกที่ดินของรัฐ ตามที่ปรากฏข่าวในสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับการบุกรุกที่ดินของรัฐและการลักลอบขุดดินในพื้นที่ของหน่วยงานรัฐ และยังไม่ดำเนินการขออนุญาตกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกป่าบริเวณ “สวนมะม่วง” ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
จากการลงพื้นที่ดังกล่าวพบว่า มีบุกรุก และขุดดินทำให้สภาพพื้นที่ดินเปลี่ยนแปลงลักษณะเปิดเป็นวงกว้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พบการบุกรุก เนื้อที่ประมาณ 3,952 ไร่ 0 งาน 77 ตารางวา แบ่งเป็นสองส่วนหลักคือ
1.พื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พบการบุกรุกรวม 1,392 ไร่ 3 งาน 91 ตารางวา ประกอบด้วยแปลง นส.3 ก. ถึง 25 แปลง เนื้อที่รวมกว่า 1,143 ไร่ นอกจากนี้ยังมีแปลง มาตรา 64 และพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิที่ถูกบุกรุกอีกจำนวนมาก
2.พื้นที่ในเขตที่ราชพัสดุ (ปข.605) พบการบุกรุกรวม 2,728 ไร่ 3 งาน 16 ตารางวา โดยเป็นที่ดิน นส.3ก ถึง 39 แปลง เนื้อที่กว่า 2,016 ไร่ และยังมีพื้นที่ที่ไม่ได้ซ้อนทับเอกสารสิทธิอีก 712 ไร่
จากข้อมูลข่าวข้างต้น สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 7 ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ สำนักงานที่ดินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สาขาหัวหิน สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ประจวบคีรีขันธ์ ที่ทำการอำเภอหัวหิน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองพลับ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ ๗ สถานีตำรวจภูธรบ้านหนองพลับ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ร่วมประชุมกันแล้วสรุปผลได้ดังนี้
1) กรณีการบุกรุกที่ดินอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และที่ราชพัสดุที่กองทัพบกได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้น หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และได้มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหนองพลับ ขณะเดียวกันกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเรื่องดังกล่าวเพื่อดำเนินการด้วยเช่นกัน และหากพยานหลักฐานรับฟังได้ว่าเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะประสานความร่วมมือกับสำนักงาน ป.ป.ช.ในการสืบสวนเพื่อทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ
2) กรณีการขุดดินถมดิน ปัจจุบันไม่มีการดำเนินการขออนุญาตกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค ๗ จะติดตามรวบรวมข้อมูล หากเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ สำนักงาน ป.ป.ช. จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
3) กรณีมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการขุดดินและถมดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเห็นของสำนักงาน ป.ป.ช. นั้น จากการลงพื้นที่วันนี้พบว่ายังไม่มีความก้าวหน้าและยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหา สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค ๗ จะดำเนินการรวบรวมข้อมูลให้สำนักมาตรการเชิงรุกและนวัตกรรม สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาทบทวนมาตรการให้เป็นรูปธรมเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป
จากการประชุมหารือร่วมกันว่ามีการบุรุกพื้นที่อุทยาน และพื้นที่ธนารักษ์หรือไม่นั้น พบว่า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ร้องทุกข์ไปยัง พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านหนองพลับ เพื่อให้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไปแล้วในส่วนของธนารักษ์ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบเช่นกันว่า การออกสิทธิ์จะชอบหรือไม่ จึงจำเป็นต้องตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเรื่องเพื่อดำเนินการต่อจากธนารักษ์ตามหน้าที่และอำนาจต่อไปด้วย
ในส่วนของการลักลอบขุดดิน ในประเด็นนี้พบว่า ทางผู้แทนของ อบต.หนองพลับ จะดำเนินการตามหน้าที่ของทางนั้นต่อไป ซึ่งทางนายจักรกฤช ตันเลิศ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 7 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 7 ชี้แจงว่าจะติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวต่อไป







