อัปเดต! บุกจับเจ้าอาวาสวัดดังพร้อมคนสนิท อมเงินวัดเปย์สีกาฉาว

ฮอตโซเชียล อัปเดตข่าวด่วน! บุกจับเจ้าอาวาสวัดดังพร้อมคนสนิท อมเงินวัดเปย์สีกาฉาว
เช้าวันนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง CIB บุกจับ อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท พร้อมคนสนิท หลังเบียดบังเงินวัดโดยมิชอบ พบเส้นทางการเงินเอี่ยว สีกากอล์ฟ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ "กอล์ฟทีม EP.1" บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อกวาดล้างจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาว "สีกากอล์ฟ" หลังพบยักยอกเงินวัดนำไปดูแลสีกากอล์ฟ
จุดแรก
สถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร หรือ อดีตพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหา เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนโดยการทุจริต , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ทันทีที่ไปถึงพบ นายทิวากร กำลังพักผ่อนอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าทำการจับกุม
จุดที่สอง
บ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม บ้านพักของ นายสันติชัย อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
ข้อหา สนับสนุนเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์ , สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
และ ลูกศิษย์คนสนิทของ อดีตพระมหาทิวากร ซึ่งทันทีที่เข้าหน้าทีไปถึงพบตัวนายสันติชัย ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านพัก เจ้าหน้าที่จึงนำหมายจับแสดงตัวเข้าจับกุม
จุดที่สาม
บ้านพักในพื้นที่ จ.พิจิตร ซึ่งเป็นบ้านพักของพี่สาว นายวิรัติ หรือ อดีตพระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร อายุ 60 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหา เป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์ ,เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เนื่องจากทราบเบาะแสว่า หลังนายวิรัติ สึกออกมาก็ได้มาพักอาศัยอยู่ที่บ้านของพี่สาว ทันทีที่ไปถึงพบนายวิรัติกำลังนอนพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงนำหมายจับเข้าทำการจับกุมตัวได้ พร้อมเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักเพื่อค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
พฤติการณ์เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท
พบว่า ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดนั้น มักมีพฤติกรรมตั้งตัวเป็นคนบริหารจัดการเงินต่างๆ ของวัดแบบเบ็ดเสร็จเพียงผู้เดียว รวมถึงมีพฤติกรรมยักยอกเงินของวัดไปใช้ส่วนตัว สอดคล้องกับข้อมูลเส้นทางการเงินที่มีการตรวจสอบพบว่าในช่วงปี 2565-2568 มหาทิวากร เคยโอนเงินไปให้กับสีกากอล์ฟ เป็นเงินรวมกว่า 1,176,740 บาท
จากการตรวจสอบยังพบว่า ในช่วงปี 2566-2568 ได้มีบริษัทเอกชนจำนวน 3 แห่ง ติดต่อขอเช่าสถานที่ของวัดบริเวณริมแม่น้ำท่าจีนใช้ทำเป็นที่จอดเรือ กับทางมหาทิวากร โดยตกลงกันทางวาจาเรียกเก็บค่าเช่าเดือนละ 30,000 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.66 – 13 มิ.ย.68 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 870,000 บาท
โดยมีนายสันติชัย หรือ อุ้ย ลูกศิษย์คนสนิท เป็นผู้ประสานงานคอยจัดเก็บเงินค่าเช่า ก่อนจะโอนต่อมายังบัญชีธนาคารส่วนตัวของ มหาทิวากร แต่ปรากฎว่าภายหลังได้เงินค่าเช่าที่จอดเรือมาแล้ว มหาทิวากร ไม่ได้นำเงินดังกล่าวเข้าบัญชีวัด แต่กลับนำไปใช้ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ มหาทิวากร และ นายสันติชัย จนนำมาสู่การจับกุมตัวในวันนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ที่ถูกจับกุมในวันนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างคุมตัวมาสอบปากคำยังกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ซึ่งในส่วนของรายละเอียดทางคดี ทางเจ้าหน้าที่จะมีการแถลงข่าวชี้แจงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในช่วงบ่ายวันนี้






