รับเงินก้อนใหญ่ คนปลูกยางพารา โค่งยางปลูกใหม่ ได้เงินไร่ละ 16000

เช็กเงื่อนไข กยท. รับเงินก้อนใหญ่ คนปลูกยางพารา ได้เงินไร่ละ 16,000 บาท โค่งยางปลูกใหม่ทดแทน ใครได้บ้าง รัฐจ่ายทั่วถึงทุกคน เงินสนับสนุน เงินทุนหมุนเวียนจัดการสวน
ติดตามเงินช่วยเหลือชาวสวนยางพาราล่าสุดกับ "กรุงเทพธุรกิจ" เช็กเงื่อนไข กยท. รับเงินก้อนใหญ่ เกษตรกร คนปลูกยางพารา ได้เงินไร่ละ 16,000 บาท โค่งยางพาราแล้วปลูกใหม่ทดแทน ในปี 2568 ใครได้บ้าง รัฐจ่ายทั่วถึงทุกคน เงินสนับสนุน เงินทุนหมุนเวียนบริหารจัดการสวน ตรวจสอบหลักเกณฑ์ วิธียื่นคำขอล่าสุด การพิจารณาอนุญาต อนุมัติเร็วสุดวันไหน?
เจาะลึก เงินช่วยเหลือชาวสวนยางปี 2568 ใครมีสิทธิ์รับเงิน 16,000 บาท/ไร่
ดร.เพิก เลิศวังพง รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรชาวสวนยางที่ได้ยื่นคำขอรับการปลูกแทนและอยู่ระหว่างรอการอนุมัติให้การส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปลูกแทนจำนวนมาก ซึ่ง กยท. ได้รวบรวมคำขอคงเหลือของผู้ขอรับการปลูกแทนรายที่เจตนาจะโค่นต้นยางและปลูกแทนโดยใช้ทุนตนเองก่อนได้รับอนุมัติ โดยมีแผนการโค่นและปลูกแล้วเสร็จในปีงบประมาณ 2568
ทั้งนี้เกษตรกรได้ยื่นแบบขอโค่นและปลูกแทนด้วยทุนตนเองก่อนได้รับอนุมัติ (แบบ กยท. 4) แล้ว รวมทั้งสิ้น 36,283 ราย คิดเป็นพื้นที่รวม 346,685.90 ไร่
โดยขณะนี้ กยท. อนุมัติงบประมาณปี 2568 จากกองทุนพัฒนายางพารา ตามมาตรา 49(2) วงเงินรวม 2,860,431,552.20 บาท สำหรับโครงการโค่นต้นยางและปลูกแทนโดยใช้ทุนของเกษตรกรก่อนได้รับการอนุมัติจาก กยท. ไว้เรียบร้อยแล้ว
เผยไทม์ไลน์ อนุมัติเร็วสุดวันไหน? กยท. จ่ายเงินชาวสวนยางเมื่อไหร่?
นายจิรวิทย์ มีชูภัณฑ์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมและพัฒนาการผลิต กล่าวว่า กยท. จะดำเนินการจ่ายเงินในการส่งเสริม สนับสนุน และให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางที่ยื่นขอโค่นและปลูกแทนด้วยทุนตนเองก่อนได้รับอนุมัติกับ กยท. ในอัตราไร่ละ 16,000 บาท
กยท. จะอนุมัติการปลูกแทนและเริ่มจ่ายเงินได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 โดยจะจ่ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 กันยายน 2568
ทั้งนี้ เกษตรกรในโครงการฯ นี้ สามารถติดต่อขอรับเงินสนับสนุนได้ที่ กยท.จังหวัด/สาขา ในพื้นที่ใกล้บ้าน สำหรับโครงการฯ ดังกล่าว เป็นหนึ่งในโครงการที่ กยท. ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายสำหรับการปลูกต้นยางใหม่ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้เกษตรกรนำไปบริหารจัดการสวนยางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เช็กเงื่อนไข รับเงินไร่ละ 16,000 บาท ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง?
เพื่อความรวดเร็วในการรับเงิน ชาวสวนยางพารา ต้องตรวจสอบคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ให้ตรงตามที่ กยท. กำหนด โดยมีรายละเอียดดังนี้
ชาวสวนยางที่เข้าหลักเกณฑ์ขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปลูกแทน ต้องมีเนื้อที่ไม่น้อยกว่า 2 ไร่ แต่ละไร่มีต้นยางปลูกไม่น้อยกว่า 10 ต้น โดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่าไร่ละ 25 ต้น และเป็นต้นยางอายุกว่า 25 ปี ขึ้นไป หรือต้นยางทรุดโทรมเสียหาย หรือต้นยางได้ผลน้อยตามหลักเกณฑ์ที่ กยท. กำหนด สวนยางที่อยู่ในหลักเกณฑ์ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปลูกแทนไร่ละ 16,000 บาท
โดยจะต้องไม่เป็นที่ดิน หวงห้ามของทางราชการ หรืออยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ หรือเขตอุทยานแห่งชาติ หรือป่าที่ ตามมติคณะรัฐมนตรี กำหนดไว้ให้เป็นป่าถาวรอันเป็นสมบัติของชาติ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากหน่วยราชการผู้รับผิดชอบให้เป็น ผู้มีสิทธิทำกิน หรือได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติเป็นการชั่วคราว เพื่อการทำสวนยาง
การปลูกแทนมีกี่แบบ?
ทั้งนี้ คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ที่ได้รับการพิจารณาให้ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปลูกแทน ต้องเป็นผู้ขึ้นทะเบียนไว้กับการยางแห่งประเทศไทยในฐานะเป็นเจ้าของสวนยาง การให้การส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปลูกแทนมีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่
แบบ 1 ปลูกแทนด้วยยางพันธุ์ดี โดยแบ่งตามวิธีการปลูก
- ปลูกด้วยต้นยางชำถุง ต้นยางติดตาในถุง หรือต้นตอยาง
- ปลูกด้วยเมล็ดหรือต้นกล้าในแปลง แล้วติดตาด้วยยางพันธุ์ดี
แบบ 2 ปลูกแทนด้วยไม้ยืนต้นที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ โดยแบ่งตามวิธีการปลูก
- ปลูกแทนด้วยไม้ยืนต้นที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ
- ปลูกแทนแบบเกษตรกรรมยั่งยืนโดยมีไม้ยืนต้นที่มีความสำคัญ ทางเศรษฐกิจเป็นพืชหลัก
แบบ 3 ปลูกแทนแบบสวนยางยั่งยืน การปลูกยางผสมผสานร่วมกับกิจกรรมอื่น
ขั้นตอนการยื่นขออนุญาตโค่นต้นยางพารา 2568
1. ตรวจสอบคุณสมบัติ
- เกษตรกรต้องมีคุณสมบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ กยท. กำหนด เช่น เป็นบุคคลสัญชาติไทย มีสิทธิในที่ดินสวนยาง หรือเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้เช่าทำสวนยางในเขตพื้นที่ของรัฐ
2. รวบรวมเอกสาร
- เตรียมเอกสารที่จำเป็น ได้แก่ บัตรประชาชน, หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่ดินสวนยาง, แบบ กยท.1, และเอกสารอื่นๆ ตามที่ กยท. กำหนด
3. ยื่นคำขอ
- ยื่นคำขอรับการสงเคราะห์ปลูกแทนพร้อมเอกสารหลักฐาน ที่สำนักงาน กยท. สาขาในพื้นที่ หรือสำนักงาน กยท. เขต หรือศูนย์ปฏิบัติการสงเคราะห์สวนยาง
4. การพิจารณา
- กยท. จะพิจารณาคำขอและตรวจสอบเอกสารหลักฐาน หากถูกต้อง ครบถ้วน จะพิจารณาอนุมัติให้โค่นต้นยางเพื่อปลูกแทนได้
โดยพนักงานการยางแห่งประเทศไทยจะทำการสำรวจ รังวัดที่ดิน เมื่อการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) อนุมัติคำขอแล้ว จะแจ้งผลให้เกษตรกรเจ้าของสวนยางทราบ พร้อมทั้งนัดเกษตรกรเจ้าของสวนยางประชุมชี้แจงขั้นตอนการปลูกแทน ทำสัญญา และรับหนังสือประจำตัว ผู้ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปลูกแทนต่อไป
5. การปลูกแทน
เมื่อได้รับอนุมัติแล้ว เกษตรกรสามารถดำเนินการโค่นต้นยางและปลูกแทนด้วยยางพันธุ์ดี หรือไม้ยืนต้นที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ หรือปลูกแทนแบบสวนยางยั่งยืน ตามที่ กยท. กำหนด
คุณสมบัติการยื่นขอรับการสงเคราะห์เพื่อปลูกแทน กรณีผู้ยื่นขอเป็นบุคคลทั่วไป
- เป็นบุคคลสัญชาติไทย
- เป็นเจ้าของสวนยางโดยมีหลักฐานการมีสิทธิ์ในที่ดินหรือมีหลักฐานการครอบ ครองที่ดินสวนยางตามที่สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางกำหนด หรือ เป็นผู้ที่ครอบครองที่ดินสวนยางมือเปล่าโดยชอบด้วยกฎหมายต่อเนื่องกันมากกว่า 10 ปี หรือผู้รํบโอนสวนยางจากผู้มีสิทธิ์ครอบครองดังกล่าว ซึ่งต้องมีหนังสือรับรองจากส่วนราชการที่รับผิดชอบว่า ไม่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยาน หรือเขตหวงห้ามของทางราชการ
- เป็นผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้ได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของสวนยางให้ทำการแทน
- เป็นผู้เช่าสวนยางของผู้อื่นเพื่อผลิตยาง โดยมีสัญญาเช่า
- เป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับผลิตผลจากต้นยางในสวนยาง โดยได้รับความยินยอมจาก เจ้าของสวนยางเป็นลายลักษณ์อักษร
- เป็นผู้เช่าที่ดินของผู้อื่นเพื่อสร้างสวนยางโดยมีสัญญาเช่า
- เป็นเจ้าของสวนยางที่ได้รับอนุญาตให้เช่าทำสวนยางในเขตป่าสงวนแห่งชาติ หรือวนอุทยานแห่งชาติ หรือเขตหวงห้ามของทางราชการ โดยมีหลักฐานอนุญาต ซึ่งทางราชการออกให้
อ้างอิง-ภาพ : การยางแห่งประเทศไทย







