ขวางทางหมาเกิด | อาหารสมอง

ขวางทางหมาเกิด | อาหารสมอง

“Bruno” (บรูโน) เป็นชื่อที่ดังก้องอิตาลีและยุโรปในเดือนที่ผ่านมา ความดังของ “บรูโน” เตือนใจมนุษย์ในหลายสังคมให้ทบทวนขบคิดสิ่งที่เคยเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก่อน

ความอื้อฉาวของการตายของ “บรูโน” น่าจะเป็นผลดีต่อจิตใจของมนุษย์ในการฉุกคิดและดีต่อสุขภาวะของพรรคพวกเขาไม่น้อย

“บรูโน” เป็นสุนัขอายุ 6 ปีพันธุ์ล่าเนื้อของอิตาลี ทำงานในหน่วยค้นหาและกู้ภัย ในชีวิตของ “บรูโน” เคยช่วยชีวิตมนุษย์ประสบภัยถึง 9 คน ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์และเด็กเล็กๆ อีกหลายคน “บรูโน” ได้รับหลายรางวัลจากงานที่ทำ ครั้งหนึ่งเคยได้รับรางวัลจากนายกรัฐมนตรีอิตาลี Giorgia Meloni ด้วยซ้ำ แต่แล้วในวันที่ 4 ก.ค.2568 “บรูโน” ก็ถูก “วางยา” อย่างตั้งใจโดยมีคนเอาตะปูแอบซ่อนไว้ในไส้กรอกและโยนเข้าไปในกรงให้กิน “บรูโน” ตายช้าๆ อย่างเจ็บปวดเพราะตะปูทั้งติดคอและหลุดเข้าไปในกระเพาะจนเลือดตกใน 

ขวางทางหมาเกิด | อาหารสมอง    

ขวางทางหมาเกิด | อาหารสมอง

ที่มาภาพ arcangelo.caressa/facebook

ผู้ฝึกสอนมั่นใจว่าการตายครั้งนี้เป็นผลจากการแก้แค้นตัวเขาโดยไปลงที่ “บรูโน” แทนเพื่อให้เขาเจ็บปวด ผู้ฝึกสอนบอกว่าเหตุที่เขาเป็นเป้าหมายก็เพราะเขาออกมาต่อต้านการแข่งขันให้สุนัขกัดกัน (dog fighting) ซึ่งผิดกฎหมายอย่างแข็งขันและเขาถูกขู่ฆ่ามาหลายครั้งแล้ว

การนำสุนัขมาต่อสู้กันเพื่อการพนันนั้นมีมานานนับเป็นร้อยเป็นพันปีแล้ว โดยมีที่มาจากเกมให้สุนัขสู้กับวัวและหมี เมื่อมนุษย์ส่วนใหญ่จิตใจพัฒนาขึ้นในประมาณศตวรรษที่ 20 เกมชั่วช้านี้ก็กลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ในอังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ ยุโรป อีกหลายประเทศ และบางรัฐในสหรัฐอเมริกาก็ยังแอบจัดอย่างผิดกฎหมาย ในไทยเองก็เคยได้ยินว่ามีอยู่แถวพัทยา ประเทศที่ถูกกฎหมายมีน้อยมาก เท่าที่ตรวจสอบก็พบว่ามีในญี่ปุ่น ซึ่งจัดในชนบทเป็นส่วนใหญ่ รัสเซียเป็นประเทศที่นิยมมาก อัฟกานิสถาน ฯลฯ

อิตาลีลุกเป็นไฟเมื่อข่าวคราว “บรูโน” ถูกฆ่าแพร่ออกไป นายกรัฐมนตรีอิตาลีประณามการฆ่าครั้งนี้ว่า “ชั่วช้า ขี้ขลาดแลยอมรับไม่ได้” และขอบคุณ “บรูโน” สำหรับงานช่วยชีวิตมนุษย์ประชาชน ทั่วประเทศสาปแช่งอย่างโกรธแค้น มีคอลัมน์หนึ่งในหนังสือพิมพ์เขียนว่าสิ่งที่ “บรูโน” ทำให้สังคมนั้นมีคุณค่ามากกว่าที่พลเมืองหลายคนทำในชีวิตด้วยซ้ำ

การตายของ “บรูโน” ได้กลาย เป็นสัญลักษณ์ของการทารุณสัตว์และความอยุติธรรมไปทั่วประเทศ สื่อใหญ่หลายแหล่งประโคมข่าวนี้ไปทั่วยุโรป และทำให้เกิดประเด็นในเรื่องกฎหมายคุ้มครองสัตว์และสวัสดิภาพสัตว์ที่ทำงานรับใช้มนุษย์ (service animals) เช่น สุนัข ม้า ช้าง ฯลฯ และการหลุดรอดคดีอาญาจากการทารุณสัตว์

 

ขวางทางหมาเกิด | อาหารสมอง

ที่มาภาพ arcangelo.caressa/facebook

ชื่อ “บรูโน” ดังอย่างไม่ตั้งใจและเจ้าตัวคงไม่ต้องการ และนำไปสู่การถกเถียงและการพิจารณาหลายประเด็น ดังนี้ 

(1) ลักษณะของการฆ่าน่าจะกระทำโดยกลุ่มอาชญากรที่ถูกขัดผลประโยชน์ และแก้แค้นอย่างทารุณ ประเด็นก็คือกฎหมายคุ้มครองพลเมืองและสัตว์ในการต่อสู้กับการแก้แค้นของอาชญากรได้ศักดิ์สิทธิ์เพียงใด เพราะการต่อสู้ความเลวร้ายในสังคมของพลเมืองเช่นนี้เป็นสิ่งที่ควรสนับสนุน 

(2) กฎหมายลงโทษเพียงพอหรือไม่สำหรับการทารุณสัตว์ คนอิตาลีบอกว่ากฎหมายลงโทษเบาเกินไปสำหรับคดีชั่วช้าเช่นนี้ โทษสูงสุดภายใต้กฎหมายใหม่ล่าสุดคือจำคุกไม่เกิน 4 ปี และปรับ ไม่เกิน 60,000 ยูโร (ประมาณ 2.25 ล้านบาท) ในกรณีที่สัตว์ตาย มีคำถามว่าการฆ่า “พนักงาน” ผู้รับใช้สังคมเช่น “บรูโน” ควรมีโทษใกล้เคียงกับการทำร้าย “พนักงานรัฐ” ในการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ 

(3) กฎหมายควรคุ้มครองสัตว์ที่ทำงานรับใช้มนุษย์และลงโทษผู้กระทำผิดแรงกว่าการทำร้ายสัตว์ปกติหรือไม่ ในกรณีนี้ ถือได้ว่า“บรูโน” ทำหน้าที่เป็น “ตำรวจ” ที่ได้รับการฝึกฝนรับใช้ประชาชน

ประเด็นสำคัญที่ถกเถียงกันก็คือ กฎหมายส่วนใหญ่ในยุโรปถือว่าสัตว์หรือแม้แต่สิ่งที่ทำงานให้มนุษย์เป็น “ทรัพย์” ไม่ใช่ “บุคคล” ตามนัยนี้การฆ่า “บรูโน” ไม่ต่างอะไรจากการทำลายทรัพย์ของภาครัฐ กล่าวคือเขาเป็นเพียง “object” (สิ่งของ) มิใช่ subject (บุคคล) เพียงแต่ห้ามการทารุณ “ทรัพย์” นี้ คนที่ไม่เห็นด้วยบอกว่า “บรูโน” ไม่ใช่เก้าอี้หรือวิทยุ หากแต่มีจิตวิญญาณของผู้ช่วยชีวิตคนอื่น

บ้านเรามีกฎหมายป้องกันการทารุณสัตว์และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ โดยมีผลบังคับใช้ในปลายปี 2557 ซึ่งตามกฎหมายเมื่อมีการทรมานสัตว์ โทษสูงสุดคือจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับกฎหมายฉบับนี้ก็ยังถือว่าสัตว์เป็น “ทรัพย์” เช่นเดียวกัน กลุ่มผู้เมตตาสัตว์ได้พยายามผลักดันกฎหมายฉบับนี้ยาวนานถึง 20 ปี จึงประสบผลสำเร็จ แต่ก็ไม่อาจต่อสู้ให้สัตว์เป็น “บุคคล” ได้ 

เพราะเพียงแค่มีสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย ซึ่งงานสำคัญหนึ่งคือเป็นองค์การขับเคลื่อนผลักดันกฎหมายก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว เพราะต้องใช้ทั้งแรงงาน แรงสมองและแรงทรัพย์เป็นอันมาก (โชคดีที่ได้คุณธีระพงศ์ ปังศรีวงศ์ CEO บริษัท บี.เอ็ล.ฮั้ว จำกัด ซึ่งเป็นองค์กรผลิตและขายเวชภัณฑ์ มีอายุ 102 ปี เป็นผู้สนับสนุนเดียวในทุกทางเป็นเวลาต่อเนื่องอย่างยาวนานมาจนถึงทุกวันนี้)

“บรูโน” อาจเป็นประกายจุดให้เรามาทบทวนกันอีกครั้งว่า สัตว์เพื่อนร่วมโลกของเรา ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถ “รู้สึก รับรู้ รับทราบ มีประสบการณ์” โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถรู้สึกเจ็บปวด มีความสุข มีอารมณ์ มีการตระหนักรู้สิ่งรอบตัว ฯลฯ เหมือนเช่นเราควรเป็นมากกว่า “ทรัพย์” หรือ “สิ่งของ” หรือไม่ อย่างไรก็ดีเป็นที่น่ายินดีว่าปัจจุบันในบ้านเรามีผู้ที่ทรมานสัตว์ได้ถูกลงโทษติดคุกจริง ถึงแม้สัตว์จะยังคงเป็น “ทรัพย์” ก็ตาม

กล่าวคือในกรณีของ “เตี้ย มช.” ซึ่งเป็นสุนัขที่เติบโตและอาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อันเป็นที่รู้จักและรักใคร่ของนักศึกษาถูกฆ่าตายอย่างทารุณ ศาลตัดสินเมื่อต้นปี 2568 ปรับจำเลย 100,000 บาท และจำคุก 6 เดือน ในกรณีนี้ศาลตัดสินว่า “เตี้ย”เป็น ”ทรัพย์“ ของมหาวิทยาลัย

“บรูโน” ปลุกให้สังคมโลกทบทวนความคิดในเรื่อง สิทธิสัตว์สวัสดิภาพสัตว์ และเมตตาธรรมที่มนุษย์พึงมีให้เพื่อนร่วมโลก

คนชั่วช้าไร้ความปราณีตามวลีว่า “ชิงหมาเกิด” (หมาเป็นสิ่งเลวร้ายแล้วแต่คนเลวก็ยังแย่งหมามาเกิด) คงต้องแก้ไขเป็น “ขวางทางหมาเกิด” (คนเลวร้ายจนกีดขวางไม่ให้หมา ซึ่งเป็นสิ่งดีมาเกิด)