รู้ก่อนเปียก! กทม.-ทั่วไทย เตรียมรับมือฝนเพิ่ม ช่วง 11-17 ส.ค. 68

อัปเดตพยากรณ์อากาศ 15 วันข้างหน้า! เตรียมรับมือฝนฟ้าคะนองทั่วไทย ช่วง 11-17 ส.ค. 68 ทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล ภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออกจะมีฝนเพิ่มขึ้น
กรมอุตุนิยมวิทยา ได้อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวันและทิศทางลม 15 วันล่วงหน้า (3-17 สิงหาคม 2568) โดยอ้างอิงข้อมูลจากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) ซึ่งบ่งชี้ว่าประเทศไทยจะยังคงมีฝนต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงครึ่งหลังของเดือนสิงหาคม
พยากรณ์อากาศช่วงวันที่ 3-10 สิงหาคม 2568
ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ประเทศไทยตอนบนจะยังมีฝนบางพื้นที่ โดยคาดว่าจะมีฝนหรือฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงวันที่ 5-7 สิงหาคม 2568 บริเวณภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ซึ่งเป็นผลมาจากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำ นอกจากนี้ ภาคตะวันออก โดยเฉพาะจังหวัดจันทบุรีและตราด ซึ่งเป็นพื้นที่รับลมมรสุม ก็จะมีฝนตกเช่นกัน
สำหรับภาคกลาง กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จะยังคงมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยในบางพื้นที่ อันเนื่องมาจากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุม
ทางภาคใต้จะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้นบ้าง และคลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนจะมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง ขอให้ชาวเรือและชาวประมงเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
พยากรณ์อากาศช่วงวันที่ 11-17 สิงหาคม 2568
ในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์ที่สองของเดือนสิงหาคม คาดว่าทั่วประเทศไทยจะมีแนวโน้มฝนกระจายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปริมาณฝนโดยรวมจะอยู่ในเกณฑ์เล็กน้อยถึงปานกลาง และอาจมีฝนตกหนักในบางแห่งที่เป็นพื้นที่รับลมมรสุม
ปัจจัยหลักยังคงมาจากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ยังคงพัดปกคลุมและหย่อมความกดอากาศต่ำ
ส่วนภาคใต้ คาดว่าจะมีฝนเพิ่มขึ้นในช่วงปลายเดือน โดยเฉพาะบริเวณภาคใต้ฝั่งอันดามัน อย่างไรก็ตาม คลื่นลมจะเริ่มเบาลง ทำให้สามารถวางแผนทำกิจกรรมได้ตามปกติ แต่ยังคงต้องระวังฝนหรือฝนฟ้าคะนองในช่วงเย็นถึงค่ำ
สรุปและข้อควรระวัง
กรมอุตุนิยมวิทยายังระบุว่า ในระยะนี้ยังไม่มีสัญญาณของการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อนที่จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ประชาชนจึงไม่ควรกังวลมากนัก โดยฝนที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ยังคงเป็นผลมาจากอิทธิพลของมรสุมตามฤดูกาล
ทั้งนี้ ข้อมูลพยากรณ์อากาศอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามการประมวลผลข้อมูลใหม่ จึงควรใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดจากแหล่งข้อมูลทางการ







