สรุปสถานการณ์น้ำท่วม ล่าสุด ประชาชนเดือดร้อน 6.5 หมื่นครัวเรือน

สรุปสถานการณ์น้ำท่วม ล่าสุด ประชาชนเดือดร้อน 6.5 หมื่นครัวเรือน

ปภ. เร่งเยียวยาผู้ประสบภัย "พายุวิภา" หลังน้ำท่วมภาคเหนือเริ่มคลี่คลาย แต่ยังมี 3 จังหวัดเดือดร้อนหนัก ประชาชนกว่า 6.5 หมื่นครัวเรือนได้รับผลกระทบ

วันนี้ (31 ก.ค. 68) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่ม จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน "วิภา" โดยภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเริ่มคลี่คลายลง แต่ยังคงมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบใน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน เชียงราย และสุโขทัย

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นมา พายุโซนร้อน “พายุวิภา” ได้ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มใน 11 จังหวัด ครอบคลุม 70 อำเภอ 327 ตำบล 1,908 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 65,880 ครัวเรือน หรือประมาณ 206,244 คน และมีผู้เสียชีวิต 5 ราย (น่าน 4 ราย, แพร่ 1 ราย)

ปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วมยังคงอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ น่าน เชียงราย และสุโขทัย รวม 11 อำเภอ 32 ตำบล 167 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 9,914 ครัวเรือน หรือประมาณ 36,682 คน อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำในทุกจังหวัดเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง

รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยห่วงใยประชาชน สั่งการเร่งช่วยเหลือทุกด้าน

นายภาสกร กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยมีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยเป็นอย่างยิ่ง โดยนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างครอบคลุมในทุกมิติ

ปภ. ได้เน้นย้ำให้จังหวัดเร่งระบายน้ำในพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขัง ระดมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัย และบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร อาสาสมัคร และประชาชนจิตอาสา เพื่อทำความสะอาดและซ่อมแซมบ้านเรือน ที่พักอาศัย พื้นที่การเกษตร และสิ่งสาธารณประโยชน์ต่างๆ ให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้จังหวัดประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งสำรวจความเสียหายและจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุม เพื่อดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด โปร่งใส และตรวจสอบได้ โดยเฉพาะการให้เงินช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ
 

เฝ้าระวังต่อเนื่องและแจ้งเตือนผ่าน Cell Broadcast

นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะประธานการประชุมฯ ย้ำเตือนว่า แม้สถานการณ์โดยรวมจะคลี่คลาย แต่ยังคงมีหลายพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จึงกำชับให้ทุกจังหวัดดำเนินการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยและอธิบดี ปภ. อย่างต่อเนื่อง

สิ่งสำคัญคือการแจ้งเตือนภัยและการเฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิดตลอดช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะจังหวัดท้ายน้ำและพื้นที่เสี่ยง หากพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุทกภัย กรม ปภ. จะดำเนินการส่งแจ้งเตือนภัยผ่านระบบ Cell Broadcast เพื่อให้ประชาชนเตรียมรับมือสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที

สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ได้มีการเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด พร้อมสำรวจและให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้ นอกจากนี้ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตได้เตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัยไว้สำหรับเข้าช่วยเหลือประชาชนหากมีสถานการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่

ปภ. ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ ข้อมูลข่าวสาร และการแจ้งเตือนภัยจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด หากพบเห็นหรือได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทาง Line Official Account “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM) และทาง สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป