สำรวจ '5 จุดแข็งไทย' ในการสร้าง 'เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์'

ในขณะที่หลายประเทศกำลังเร่งเครื่องสร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงบันเทิง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ประเทศไทยเองก็ถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญที่มีจุดแข็งรอบด้านพร้อมต่อการก้าวสู่เวทีโลกผ่านโครงการ 'เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์' ซึ่งไม่ใช่แค่พื้นที่รวมคาสิโน แต่คือศูนย์รวมของพิพิธภัณฑ์ระดับโลก ศูนย์แสดงนิทรรศการ อีสปอร์ต สวนสนุก โรงแรม ศูนย์การประชุม และกิจกรรม Soft Power ที่ไทยมีความสามารถโดดเด่นอยู่แล้ว

สำรวจ 5 จุดแข็งของประเทศไทย ในการสร้าง 'เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์'

วัฒนธรรมไทย และ Soft Power ที่แข็งแกร่ง

ไทยเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมอันหลากหลายและโดดเด่น ตั้งแต่มวยไทย อาหารไทย ศิลปะการแสดง ดนตรีพื้นบ้าน ไปจนถึงเทศกาลอย่างสงกรานต์และลอยกระทง จุดขายเหล่านี้สามารถต่อยอดและผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีบันเทิงยุคใหม่ เช่น Virtual Reality หรือการสร้าง Experience-Based Tourism ได้เป็นอย่างดี หากพัฒนาอย่างมีกลยุทธ์ จะสามารถเป็นตัวเร่งให้ไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางของผู้แสวงหาประสบการณ์ระดับโลกได้

การท่องเที่ยวฟื้นตัวเต็มรูปแบบ

ข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ระบุว่าในปี 2023 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 28.2 ล้านคน สร้างรายได้ 1.2 ล้านล้านบาท และในปี 2024 ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็น 35 ล้านคน สร้างรายได้ 1.8 ล้านล้านบาท คาดว่าในปี 2025 จะเพิ่มเป็น 36-39 ล้านคน และสร้างรายได้ถึง 1.98-2.23 ล้านล้านบาท ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงฐานผู้บริโภคที่มั่นคงและการฟื้นตัวที่แข็งแรงของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

ทำเลทางยุทธศาสตร์และโครงสร้างพื้นฐาน

สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นประตูหลักของประเทศ มีจำนวนผู้โดยสารในปี 2024 สูงถึง 62.2 ล้านคน เพิ่มจากปี 2023 ที่มีผู้โดยสาร 51.7 ล้านคน นอกจากนี้ไทยยังมีพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งรวมจังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ซึ่งมีศักยภาพสูงในการเป็นพื้นที่ตั้งของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยได้รับการสนับสนุนทั้งโครงสร้างพื้นฐาน คมนาคม โลจิสติกส์ และระบบดิจิทัล

อุตสาหกรรมดิจิทัลและคอนเทนต์ที่เติบโตต่อเนื่อง

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ได้เปิดโครงการ Game Accelerator Programme และ Game Online Academy เพื่อส่งเสริมผู้พัฒนาเกมไทยกว่า 160 ราย มีมูลค่าการจับคู่ธุรกิจรวมกว่า 300 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังสนับสนุนกองทุน Digital Startup Fund สำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ในวงการเกม บริษัทละประมาณ 5 ล้านบาท

ภาคอุตสาหกรรม digital content ของไทยในปี 2023 มีมูลค่ากว่า 44.2 พันล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตเป็น 46.6 พันล้านบาทในปี 2024 และ 48.9 พันล้านบาทในปี 2025 โดยเฉพาะแอนิเมชัน และ e-book ยังคงเป็นกลุ่มที่เติบโตได้ดี แม้ตลาดเกมจะชะลอตัวลงเล็กน้อย

นโยบายรัฐที่หนุนเสริมอย่างเป็นระบบ

DEPA กำลังผลักดันร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมอุตสาหกรรมเกม (Game Industry Promotion Act) ที่จะช่วยส่งเสริมสิทธิประโยชน์ด้านภาษีและเงินทุนสำหรับผู้พัฒนาเกมไทย รวมถึงส่งเสริมเรตเกมอย่างเหมาะสมตามกลุ่มอายุ นอกจากนี้ยังมีนโยบาย Smart City ที่ครอบคลุมเมืองกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบระบบนิเวศน์ของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ยุคใหม่

โอกาสของไทยในการก้าวสู่ผู้นำด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ระดับภูมิภาค

หากพิจารณาจากจุดแข็งทั้งด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม และนโยบายรัฐ จะเห็นได้ว่าไทยมีคุณสมบัติเพียบพร้อมในการพัฒนาเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ให้เป็นมากกว่าการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ แต่คือการยกระดับ Soft Power ไทยสู่สายตาโลก ทั้งในแง่เศรษฐกิจ การจ้างงาน และการสร้างสรรค์วัฒนธรรมร่วมสมัย

การเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน กลไกการกำกับดูแลที่โปร่งใส และการมีส่วนร่วมของคนไทยทุกภาคส่วน จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไทย กลายเป็นโครงการแห่งความภูมิใจของชาติ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ยั่งยืนในระยะยาว