เฝ้าระวังเข้มโรคในศูนย์พักพิง รับมือสถานการณ์ชายแดน-โรคระบาด

รัฐบาล เร่งเฝ้าระวังเข้มโรคระบาดในศูนย์พักพิงชายแดน ทั้งไข้หวัดนก ไข้เลือดออก และ RSV พร้อมดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด
วันนี้ (30 ก.ค. 68) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ด้านสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ศูนย์พักพิงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดโรคติดต่อ ด้วยความห่วงใย รัฐบาลจึงสั่งการให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เร่งดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุมโรคอย่างเข้มข้นและครอบคลุม
มาตรการดูแลในศูนย์พักพิง
รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว โดยจัดส่ง วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ พร้อม หน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ ลงพื้นที่ศูนย์พักพิง นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำเรื่องสุขอนามัยในการบริโภคอาหาร โดยให้ปรุงสุกใหม่ทุกมื้อและรณรงค์การล้างมืออย่างสม่ำเสมอ สำหรับผู้ป่วย โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ จะมีการแยกตัวและนำส่งสถานพยาบาลทันที เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้าง
เฝ้าระวังไข้หวัดนกและไข้เลือดออก
รัฐบาลกำลังเฝ้าระวังสถานการณ์ โรคไข้หวัดนก ในประเทศกัมพูชาอย่างใกล้ชิด หลังพบผู้ป่วยสะสม 13 ราย และเสียชีวิต 6 รายในปี 2568 โดยทั้งหมดติดเชื้อสายพันธุ์ H5N1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์รุนแรง แม้ประเทศไทยจะไม่พบผู้ป่วยไข้หวัดนกในคนมานานกว่า 19 ปี แต่ยังคงใช้มาตรการเชิงรุกภายใต้แนวคิด “สุขภาพหนึ่งเดียว” (One Health) ประสานความร่วมมือกับกรมปศุสัตว์ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อข้ามพรมแดน
ในส่วนของ โรคไข้เลือดออก ซึ่งพบการระบาดสูงสุดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงสิงหาคม ปีนี้มีผู้ป่วยสะสมทั่วประเทศกว่า 30,000 ราย โดยจังหวัดศรีสะเกษเป็นพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ รัฐบาลได้จัดส่ง ยาทากันยุง พร้อมสนับสนุนการทำความสะอาดพื้นที่พักอาศัย การจัดการขยะ และควบคุมสิ่งแวดล้อมในศูนย์พักพิงอย่างต่อเนื่อง เพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายและลดความเสี่ยงของการระบาด
ติดตามโรคทางเดินหายใจในเด็กเล็ก
นอกจากนี้ ยังมีการติดตามสถานการณ์โรคระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ เช่น RSV ซึ่งพบการระบาดเพิ่มขึ้นในกลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 4 ปี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่พบผู้เสียชีวิต และผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถรักษาได้ตามอาการ
นางสาวศศิกานต์ ยืนยันว่า “รัฐบาลขอยืนยันว่าสถานการณ์ด้านสาธารณสุขอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด ด้วยมาตรการที่รัดกุมและรอบด้าน เพื่อปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มความสามารถ พร้อมเดินหน้าทุกภารกิจด้วยความรับผิดชอบ มุ่งมั่นให้ประเทศก้าวข้ามความท้าทายครั้งนี้อย่างมั่นคงและเป็นหนึ่งเดียว”







