ไม่มีพายุเข้าไทยระยะนี้ กรมอุตุฯ ยัน ฝนมาจากมรสุมตามฤดูกาล

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ 15 วันข้างหน้า ยังไร้กังวลเรื่องพายุเข้าไทย ฝนที่ตกหนักหลายพื้นที่เป็นผลจากอิทธิพลของมรสุมตามฤดูกาลเท่านั้น
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวันและลมที่ระดับ 925hPa (ประมาณ 750 เมตร) ล่วงหน้า 15 วัน ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม ถึง 12 สิงหาคม 2568 โดยอ้างอิงข้อมูลจากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป
สรุปภาพรวมสภาพอากาศ: 29 ก.ค. - 10 ส.ค. 68
ในช่วงระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม ถึง 10 สิงหาคม 2568 ประเทศไทยตอนบนโดยเฉพาะพื้นที่ที่เคยมีฝนตกหนัก มีแนวโน้มที่ปริมาณฝนจะลดลง อย่างไรก็ตาม ยังคงมีฝนหรือฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยปริมาณฝนส่วนใหญ่จะเป็นฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง
พื้นที่ที่ยังคงได้รับอิทธิพลจากฝน ได้แก่
- ภาคเหนือตอนบน
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
- ด้านตะวันออกของภาคตะวันออก โดยเฉพาะจังหวัดจันทบุรีและตราด ซึ่งเป็นด้านรับมรสุม
- สำหรับภาคอื่นๆ จะยังมีฝนในบางพื้นที่จากอิทธิพลของร่องมรสุม และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่เริ่มมีกำลังอ่อนลงบ้าง
ภาคใต้และสถานการณ์ทะเล
ในส่วนของภาคใต้ จะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้น และคลื่นลมมีกำลังปานกลาง โดยเฉพาะบริเวณทะเลอันดามันตอนบน ขอให้ชาวเรือและชาวประมงเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และยังคงต้องระวังคลื่นลมที่มีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง
สำหรับผู้ที่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางไปยังภาคเหนือในพื้นที่ที่เกิดอุทกภัย ขอให้ตรวจสอบเส้นทางก่อนออกเดินทาง เพื่อความปลอดภัย
แนวโน้มสภาพอากาศ: 11 - 12 ส.ค. 68
ในช่วงวันที่ 11-12 สิงหาคม 2568 ทั่วประเทศไทยมีแนวโน้มที่ฝนจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปริมาณฝนจะอยู่ในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ซึ่งเป็นผลมาจากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ยังคงพัดปกคลุม
ในภาคใต้ ปริมาณฝนจะเริ่มเพิ่มขึ้นในช่วงปลายเดือน อย่างไรก็ตาม คลื่นลมจะเริ่มเบาลง ทำให้สามารถวางแผนทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ แต่ยังคงต้องระวังฝนหรือฝนฟ้าคะนองในช่วงเย็นถึงค่ำ
ไม่มีพายุเข้าไทย!
กรมอุตุนิยมวิทยาเน้นย้ำว่า ในช่วงนี้ยังไม่มีพายุที่จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ทำให้ไม่ต้องวิตกกังวล โดยฝนที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ยังคงเป็นผลมาจากอิทธิพลของมรสุมตามฤดูกาล
ทั้งนี้ ข้อมูลหรือเส้นทางของพายุอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในช่วงที่พายุกำลังเข้าใกล้ชายฝั่ง จึงขอให้ประชาชนใช้ข้อมูลนี้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดจากกรมอุตุนิยมวิทยา







