กรมชลฯ ลงพื้นที่ 4 จุดยุทธศาสตร์พิษณุโลก-พิจิตร รับมือฤดูน้ำหลาก

กรมชลฯ ลงพื้นที่ 4 จุดยุทธศาสตร์พิษณุโลก-พิจิตร รับมือฤดูน้ำหลาก

กรมชลประทาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม 4 จุดยุทธศาสตร์ จ.พิษณุโลกและพิจิตร เตรียมพร้อมรับมือฤดูน้ำหลาก พร้อมประสาน สทนช. วางแผนบริหารจัดการน้ำเชิงรุก

นายสุริยพล นุชอนงค์ อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง ได้ลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกและพิจิตร เพื่อตรวจสอบสถานการณ์น้ำและเตรียมความพร้อมรับมือกับฤดูน้ำหลากในพื้นที่ลุ่มน้ำยมตอนล่างอย่างเป็นระบบ

การตรวจสอบได้ดำเนินการใน 4 จุดยุทธศาสตร์ ได้แก่

1. ฝายบางบ้า อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก : จากการตรวจสอบ พบว่าฝายดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก จึงมีแผนที่จะรื้อถอนออกเพื่อให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

2. ประตูระบายน้ำ DR.2.8 อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก : เป็นจุดสำคัญในการระบายน้ำส่วนเกินจากแม่น้ำยมออกสู่แม่น้ำน่าน ก่อนไหลเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจาก ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เพื่อบูรณาการข้อมูลร่วมกัน

กรมชลฯ ลงพื้นที่ 4 จุดยุทธศาสตร์พิษณุโลก-พิจิตร รับมือฤดูน้ำหลาก
 

3. ประตูระบายน้ำบางแก้ว : จุดควบคุมระดับน้ำเพื่อสนับสนุนการเกษตรและรองรับการระบายน้ำในทุ่งบางระกำ

4. ประตูระบายน้ำท่าแห อ.สามง่าม จ.พิจิตร : จุดยุทธศาสตร์ช่วงปลายน้ำของลุ่มน้ำยมที่เชื่อมต่อกับระบบชลประทานสายใหญ่ ช่วยลดแรงดันน้ำและบรรเทาผลกระทบต่อพื้นที่ตอนล่าง

นายสุริยพลยืนยันว่า กรมชลประทาน ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำใน ลุ่มน้ำยม–น่าน และได้เตรียมความพร้อมทั้งในด้านการรับมือและฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยจะใช้โครงสร้างชลประทานที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

กรมชลฯ ลงพื้นที่ 4 จุดยุทธศาสตร์พิษณุโลก-พิจิตร รับมือฤดูน้ำหลาก

ความร่วมมือของหน่วยงานในการบริหารจัดการน้ำ

นอกจากนี้ ยังมีการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยทางสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ที่จังหวัดสุโขทัย เพื่อทำหน้าที่ควบคุมการไหลของน้ำจากภาคเหนือก่อนเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
 

ในขณะเดียวกัน สทนช. ได้ประสานกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้ปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ลงเหลือ 10 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันในช่วงวันที่ 26-30 กรกฎาคม เพื่อเร่งระบายน้ำในแม่น้ำยมและลดผลกระทบในพื้นที่ตอนล่าง

กรมชลฯ ลงพื้นที่ 4 จุดยุทธศาสตร์พิษณุโลก-พิจิตร รับมือฤดูน้ำหลาก

การเตรียมพื้นที่หน่วงน้ำและมาตรการรับมือ

ในส่วนของการเตรียมพื้นที่รับน้ำ กรมชลประทานได้วางแผนใช้ "ทุ่งบางระกำ" เป็นพื้นที่หน่วงน้ำธรรมชาติ ซึ่งสามารถรองรับปริมาณน้ำได้ถึง 400 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยจะพร้อมใช้งานอย่างเต็มที่หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จสิ้นในช่วงกลางเดือนสิงหาคม

หน่วยงานในพื้นที่ยังคงเตรียมพร้อมเฝ้าระวังระดับน้ำตลอด 24 ชั่วโมง และพร้อมปรับแผนรับมือหากมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นในภาคเหนือตอนบน

กรมชลประทานขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และยืนยันว่าจะบริหารจัดการสถานการณ์น้ำเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนและพื้นที่เกษตรกรรมน้อยที่สุด