'พายุวิภา' ยังไม่จบ! ท้ายน้ำเจ้าพระยา-ลุ่มน้ำโขง รับมือน้ำท่วม

นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้เป็นประธานในการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มที่เกิดจากอิทธิพลของ พายุโซนร้อน "วิภา" โดยสั่งการให้จังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างครอบคลุม ทั้งการสูบระบายน้ำ การดูแลความเป็นอยู่ และฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด

ปภ. ได้ติดตามสถานการณ์ "พายุวิภา" ซึ่งเคลื่อนตัวผ่านร่องมรสุม ส่งผลให้เกิด น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในพื้นที่ 9 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 21-27 กรกฎาคม 2568 ได้แก่ น่าน, เชียงราย, พะเยา, ลำปาง, เชียงใหม่, แม่ฮ่องสอน, แพร่, สุโขทัย และเลย มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 33,899 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และสูญหาย 1 ราย

ปัจจุบัน (27 ก.ค. 68) สถานการณ์โดยรวมเริ่มคลี่คลายลง แต่ยังคงมีพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังใน 4 จังหวัด ได้แก่ น่าน, เชียงราย, แพร่ และสุโขทัย โดยเฉพาะจังหวัดสุโขทัยที่ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้น

ในระยะฟื้นฟู นายสหรัฐ ได้กำชับให้จังหวัดต่างๆ บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าทำความสะอาดบ้านเรือนและพื้นที่สาธารณะ ซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และสำรวจความเสียหายเพื่อจัดทำบัญชีช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตตรวจสอบและเตรียมพร้อมเครื่องจักรกลและเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที

พร้อมกันนี้ ยังได้เน้นย้ำให้จังหวัดท้ายน้ำ ได้แก่ แพร่, สุโขทัย, พิษณุโลก และพิจิตร รวมถึงจังหวัดที่อยู่ในลุ่มแม่น้ำโขง เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดและเตรียมความพร้อมรับมือกับระดับน้ำที่อาจเพิ่มสูงขึ้น โดยให้เตรียมการแจ้งเตือนประชาชนผ่าน Cell Broadcast และเตรียมพื้นที่ปลอดภัยสำหรับอพยพหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น

นายสหรัฐกล่าวทิ้งท้ายว่า ปภ. พร้อมประสานและสนับสนุนการทำงานของทุกจังหวัดอย่างเต็มที่ เพื่อลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น โดยประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์และขอความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้

• แอปพลิเคชัน: Thai Disaster Alert (TDA)
• Facebook: กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM
• X (Twitter): @DDPMNews
• Line Official Account: “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (ID: @1784DDPM)
• สายด่วนนิรภัย: 1784