น้ำท่วมภาคเหนือ กรมสุขภาพจิต ส่งทีม MCATT เยียวยาใจคนน้ำท่วม

กรมสุขภาพจิต เร่งส่งทีม MCATT ลงพื้นที่ภาคเหนือ ดูแลสุขภาพใจผู้ประสบภัยน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด
พร้อมให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางอย่างเร่งด่วนในพื้นที่ประสบภัย
วันนี้ (23 ก.ค. 68) นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานความร่วมมืออย่างเข้มข้น เพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย น้ำท่วมภาคเหนือ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง และเด็ก เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนัก และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติตามแผนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน และเตรียมพร้อมตลอดเวลา รวมถึงทีม MCATT (Mobile Crisis Assessment and Treatment Team) ที่พร้อมประเมินและดูแลสุขภาพจิตของประชาชน
สถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มล่าสุด พบว่ามี 3 จังหวัดภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ น่าน เชียงราย และพะเยา โดยจังหวัดน่านมี 10 อำเภอที่ได้รับผลกระทบ เชียงราย 3 อำเภอ และพะเยา 7 อำเภอ
ในส่วนของสถานบริการสาธารณสุข มี 5 แห่งที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่:
จังหวัดน่าน
- โรงพยาบาลเวียงสา และโรงพยาบาลเชียงกลาง : น้ำท่วมบริเวณหน้าโรงพยาบาล แต่ยังสามารถให้บริการได้ตามปกติ
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ริม อำเภอท่าวังผา : น้ำท่วมชั้นล่าง ทำให้ต้องปิดบริการชั่วคราว
จังหวัดพะเยา
- โรงพยาบาลเชียงคำ : น้ำท่วมถนนหน้าโรงพยาบาล แต่ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ
จังหวัดเชียงราย
- โรงพยาบาลเทิง : น้ำท่วมบริเวณโดยรอบ ทำให้การเดินทางเข้า-ออกไม่สะดวก โดยมีบริการเรือรับ-ส่ง และลำเลียงผู้ป่วย เปิดให้บริการเฉพาะผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉินเท่านั้น
นพ.กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้ช่วยอธิบดีกรมสุขภาพจิต และผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง กล่าวเสริมว่า ได้เตรียมความพร้อมของทีม MCATT เขตสุขภาพที่ 1 รวมถึงโรงพยาบาลสวนปรุง ศูนย์สุขภาพจิตที่ 1 และสถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ เพื่อลงพื้นที่บูรณาการร่วมกับทีมจังหวัดและอำเภอที่ประสบภัย ดูแลสุขภาพจิตและให้กำลังใจครอบครัวอย่างใกล้ชิด โดยใช้หลักการ "ปฐมพยาบาลทางใจ (Psychological First Aid : PFA)"
นพ.กิตต์กวี ยังได้เน้นย้ำให้บุคลากรสาธารณสุข ทีมกู้ชีพกู้ภัย และหน่วยงานในพื้นที่ ใช้หลัก "3 ส." ในการดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ได้แก่:
- สอดส่อง : มองหาผู้ที่อาจมีความเสี่ยงหรือต้องการความช่วยเหลือ
- ใส่ใจ : รับฟังปัญหาและความรู้สึกของประชาชน
- ส่งต่อ : เชื่อมโยงผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กรมสุขภาพจิต ขอฝากถึงประชาชนให้ติดตามข่าวสารจากสื่อหลัก หน่วยงานในพื้นที่ หรือเพจเฟซบุ๊กของจังหวัด/อำเภอ หรือหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หากในครอบครัวมีผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยเด็กพิเศษ ผู้สูงอายุ หรือผู้พิการ ที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปภ. โทร. 1784 หรือ 1669 และหากพบว่าตนเองหรือคนใกล้ชิดมีความเครียดวิตกกังวล สามารถปรึกษาได้ที่ สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง







