เขื่อนแควน้อยฯ พร้อมรับมือ 'พายุวิภา' หน่วงน้ำได้กว่า 600 ล้าน ลบ.ม.

วันนี้ (23 ก.ค. 67) นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแควน้อยบำรุงแดน เปิดเผยว่า ขณะนี้เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ยังคงสามารถรองรับน้ำได้อีกเป็นจำนวนมาก แม้จะมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเฉลี่ยวันละประมาณ 7.55 ล้านลูกบาศก์เมตร จากฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ต้นน้ำ ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำกักเก็บอย่างต่อเนื่องโดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน

ปัจจุบัน เขื่อนแควน้อยฯ มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 250 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุอ่างรวม 939 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีน้ำใช้การได้ 207 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยยังสามารถรับน้ำเพิ่มได้อีกถึง 689 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย และมีความพร้อมอย่างยิ่งในการรองรับฝนจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “วิภา” ที่คาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างระหว่างวันที่ 22–24 กรกฎาคม 2568

ฝ่ายจัดการความปลอดภัยเขื่อน ส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา และโครงการส่งน้ำบำรุงรักษาแควน้อยบำรุงแดน ยังคงเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมถึงตรวจสอบความมั่นคงของตัวเขื่อนและอาคารประกอบเป็นประจำ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับแผนบริหารจัดการน้ำรองรับปริมาณน้ำที่อาจเพิ่มขึ้น

นายชำนาญ ชูเที่ยง ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการระบายน้ำในอัตราที่เกินเกณฑ์ปกติ ประชาชนในพื้นที่ท้ายเขื่อนและริมลำน้ำน่านจึงไม่จำเป็นต้องกังวล เนื่องจากระดับน้ำยังอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเคร่งครัด ขอให้ติดตามประกาศจากหน่วยงานราชการอย่างต่อเนื่อง และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมชลประทาน โทร. 1460 ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งในพื้นที่ลุ่มน้ำแควน้อยตอนล่างอย่างยั่งยืน โดยสามารถส่งน้ำเพื่อการเกษตรได้มากกว่า 155,000 ไร่ ใน 4 อำเภอของจังหวัดพิษณุโลก ได้แก่ วัดโบสถ์ วังทอง เมืองพิษณุโลก และบางกระทุ่ม