ศธ. สั่งรับมือพายุวิภา ย้ำโรงเรียนในเส้นทางพายุสั่งปิดได้ทันที

ศธ. สั่งรับมือพายุวิภา ย้ำโรงเรียนในเส้นทางพายุสั่งปิดได้ทันที

กระทรวงศึกษาธิการ ศธ. สั่งเขตพื้นที่ฯ รับมือพายุวิภา ย้ำโรงเรียนในเส้นทางพายุสั่งปิดได้ทันที และต้องมีแผนดูแลนักเรียน ครู บุคลากร ซึ่งจะต้องได้รับความปลอดภัยทุกคน

กระทรวงศึกษาธิการ ศธ. สั่งเขตพื้นที่ฯรับมือ "พายุวิภา" ย้ำโรงเรียนในเส้นทางพายุสั่งปิดได้ทันที และต้องมีแผนดูแลนักเรียน ครู บุคลากร ซึ่งจะต้องได้รับความปลอดภัยทุกคน

วันนี้ ( 23 กรกฎาคม 2568 ) เวลา 08.00 น.  นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือน พายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” คาดจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ และจะเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศลาวตอนบน และภาคเหนือตอนบนในระยะต่อไป 

ทำให้หลายพื้นที่ของไทยโดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ด้านตะวันตกของภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักไปจนถึง 24 ก.ค. นี้  รัฐบาลขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
 

ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและภาคเหนือทั้งหมด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กำชับว่าให้ทุกเขตพื้นที่การศึกษาจัดทำแผนเผชิญเหตุพร้อมแผนรับมือ

โดยทุกโรงเรียนที่คาดว่าพายุจะเคลื่อนตัวผ่านต้องมีการเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน สิ่งของ ไปไว้ในพื้นที่ปลอดภัย และต้องมีแผนดูแลนักเรียน ครู บุคลากร ซึ่งจะต้องได้รับความปลอดภัยทุกคน 
 

หากโรงเรียนอยู่ในเส้นทางที่พายุเคลื่อนตัวผ่าน สามารถสั่งปิดโรงเรียนได้ทันที พร้อมกำชับให้ทุกโรงเรียนทำการตัดแต่งต้นไม้ที่มีลักษณะไม่ปลอดภัยเพื่อป้องกันการโค่นล้ม และกรณีของไฟฟ้า 

หากพบว่าน้ำท่วมสถานศึกษาต้องมีการประสานกับการไฟฟ้าภูมิภาคในพื้นที่ให้ตัดกระแสไฟฟ้าทันทีเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุไฟฟ้าดูด ทั้งนี้ ภายหลังระดับน้ำลดลงอยู่ระดับที่ปลอดภัย ขอให้เขตพื้นที่ฯ เข้าไปตรวจสอบว่ามีอะไรที่เสียหายชำรุดบ้างเพื่อทำการปรับปรุงซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ