พายุวิภา จ่อถล่มไทย! ปภ. ยกระดับเตือนภัย เปิดศูนย์ส่วนหน้าเชียงใหม่

พายุโซนร้อน "วิภา" จ่อถล่มไทย! ปภ. ยกระดับเตือนภัยขั้นสูงสุด พร้อมเปิดศูนย์ส่วนหน้าเชียงใหม่ เร่งรับมือสถานการณ์ ฝนตกหนักและดินถล่ม ระหว่างวันที่ 22-24 ก.ค.นี้
วันนี้ (22 ก.ค. 68) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC 1) สำนักงานชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ เป็นที่ตั้ง กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (ส่วนหน้า) โดยมีนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. เป็นประธานการประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มที่เกิดจากอิทธิพลของ พายุโซนร้อน "วิภา" และให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยกำชับให้ทุกหน่วยงานเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
นายภาสกร เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ พายุโซนร้อนวิภา เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (22 ก.ค. 68) พบว่าศูนย์กลางของพายุอยู่บริเวณใกล้ชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้ และคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามในวันนี้ ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชั่นและหย่อมความกดอากาศต่ำ อย่างไรก็ตาม อิทธิพลของพายุวิภาและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะส่งผลให้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคกลาง มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ พร้อมกับมีลมแรง ระหว่างวันที่ 22-24 กรกฎาคม 2568
เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ดังกล่าว ปภ. ได้ดำเนินการเชิงรุกตามข้อสั่งการเร่งด่วนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยได้ เปิดห้องปฏิบัติการวอร์รูม ปภ. ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ก.ค. 68) และจัดตั้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (ส่วนหน้า) ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประสานงานและติดตามสถานการณ์ร่วมกับจังหวัดในภาคเหนืออย่างใกล้ชิด ขณะที่จังหวัดต่าง ๆ ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด เพื่อเฝ้าระวังและประเมินความเสี่ยงภัยตลอดเวลา
การแจ้งเตือนภัยเป็นสิ่งสำคัญ โดย ปภ. ได้แจ้งเตือนประชาชนผ่าน ระบบ Cell Broadcast และหอเตือนภัย ในพื้นที่ทันทีที่ประเมินว่าอาจมีผลกระทบ เพื่อให้ประชาชนสามารถเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้ง ศูนย์ประชาสัมพันธ์ร่วม หรือศูนย์ข้อมูลข่าวสาร เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและต่อเนื่องแก่ประชาชน พร้อมทั้งเตรียม ศูนย์พักพิงชั่วคราวและจุดอพยพ รองรับกรณีสถานการณ์รุนแรง
ในด้านทรัพยากรและกำลังพล ปภ. ได้ เตรียมทีมเจ้าหน้าที่เผชิญเหตุและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย พร้อมประจำการในพื้นที่จุดเสี่ยงและจุดเปราะบาง โดยมีศูนย์ ปภ.เขต 9 พิษณุโลก เป็นจุดระดมทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัย (Staging Area) ที่สามารถส่งกำลังสนับสนุนภาคเหนือได้ทันที นอกจากนี้ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 ได้ถูกนำมาประจำที่ฐานจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเตรียมพร้อมออกปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เข้าถึงยาก และมีการจัดเตรียม ถุงยังชีพ ไว้ในพื้นที่เพื่อการดำรงชีพเบื้องต้น
นายภาสกร ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเฝ้าระวัง สถานการณ์ดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีฝนสะสมและดินมีความชุ่มน้ำมาก ซึ่งอาจมีความเสี่ยงในที่ราบลุ่มเชิงเขาและที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน เมื่อวานนี้ (21 ก.ค. 68) ปภ. ได้แจ้งเตือนดินถล่มผ่านระบบ Cell Broadcast รูปแบบ Information Alert ไปยัง 17 จังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวม 9 ครั้ง เพื่อให้ประชาชนรับทราบและเตรียมรับมือไว้ล่วงหน้า รวมถึงกำชับให้จังหวัดเสี่ยงพิจารณา อพยพกลุ่มเปราะบาง ในพื้นที่เสี่ยงดินถล่มไปยังจุดที่ปลอดภัยไว้ล่วงหน้า
"ทุกภาคส่วนมีความพร้อมรับมือสถานการณ์และดูแลประชาชนอย่างเต็มที่" นายภาสกรกล่าวทิ้งท้าย พร้อมขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ ข้อมูลข่าวสาร และการแจ้งเตือนภัยจากทางราชการอย่างใกล้ชิด หากมีประกาศหรือคำเตือน ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด และสามารถแจ้งเหตุหรือขอความช่วยเหลือได้ทาง Line Official Account “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (เพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM) และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อการประสานงานช่วยเหลือต่อไป







