กฎ 'มหาเถรสมาคม' ล่าสุด พระผิดพระธรรมวินัย จัดการสละสมณเพศ

เปิดกฎ 'มหาเถรสมาคม' ล่าสุดแก้ไขเพิ่ม พระผิดพระธรรมวินัย เสพเมถุน จัดการสละสมณเพศ ตามพระบัญชา สมเด็จพระสังฆราช
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แถลงข่าว การประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๘/๒๕๖๘ มีมติสำคัญ คือมติเห็นชอบ ตามที่สมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้จัดทำร่างกฎมหาเถรสมาคมฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ว่าด้วยการลงนิคหกรรม กรณีความผิดที่มีหลักฐานชัดแจ้ง การเร่งรัดการลงนิคหกรรม และการจัดการให้พระภิกษุสละสมณเพศ
เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม มีพระบัญชาโปรดแต่งตั้งคณะทำงานกลั่นกรองถวายความเห็นประกอบพระดำริในการแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ.๒๕๒๑) ว่าด้วยการลงนิคหกรรม และกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๑ (พ.ศ.๒๕๓๘) ว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศ เมื่อวันศุกร์ ที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘ โดยให้รับสนองพระบัญชาโดยด่วน เพื่อประกอบพระดำริ
ทั้งนี้ เนื่องจากกฎมหาเถรสมาคมว่าด้วยการลงนิคหกรรม พ.ศ.๒๕๒๑ ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน ทำให้ไม่อาจบังคับใช้ให้บังเกิดประสิทธิผลได้อย่างเท่าทันต่อสภาวการณ์
- ไม่มีบทบัญญัติจำเพาะแก่กรณีที่มีพยานหลักฐานชัดแจ้ง
- กรณีที่กระบวนการลงนิคหกรรมดำเนินไปอย่างล่าช้า ก่อให้เกิดความเสียหายแก่คณะสงฆ์และเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์พระพุทธศาสนา
- จึงเห็นสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์โดยเพิ่มวิธีปฏิบัติในกรณีความผิดที่มีหลักฐานชัดแจ้ง
- การเร่งรัดการดำเนินการลงนิคหกรรมไว้เป็นการเฉพาะ เพื่อให้การลงนิคหกรรมมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ส่วนกฎมหาเถรสมาคมว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศ พ.ศ.๒๕๓๘
- มิได้กำหนดขั้นตอนการให้พระภิกษุสละสมณเพศเพราะมีพยานหลักฐานชัดแจ้งว่าประพฤติผิดพระธรรมวินัยร้ายแรง หรือละเมิดพระธรรมวินัยเป็นอาจิณจนอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่คณะสงฆ์ไว้เป็นการเฉพาะ
- จึงเห็นสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์โดยเพิ่มวิธีปฏิบัติในกรณีที่มีพยานหลักฐานชัดแจ้งว่าประพฤติผิดพระธรรมวินัยร้ายแรง หรือละเมิดพระธรรมวินัยเป็นอาจิณจนอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่คณะสงฆ์
คณะทำงานฯ ได้รับสนองพระบัญชา พร้อมนำร่างกฎมหาเถรสมาคม ว่าด้วยการลงนิคหกรรม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ…. และร่างกฎมหาเถรสมาคมว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ….
ถวายเพื่อทรงพระวินิจฉัยแล้ว มีพระบัญชาโปรดให้เสนอที่ประชุมมหาเถรสมาคม ในการประชุมครั้งที่ ๑๘/๒๕๖๘ วันจันทร์ ที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ณ ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร
มหาเถรสมาคม ซึ่งมีสมเด็จพระธีรญาณมุนี ปฏิบัติหน้าที่ประธานในการประชุมคราวนี้ พร้อมด้วยกรรมการที่มาประชุมทุกรูป ร่วมกันพิจารณาร่างกฎมหาเถรสมาคมทั้งสองแล้ว มีมติเห็นชอบ
การนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม มีพระบัญชาโปรดให้ศาสตราจารย์พิเศษธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม เข้าร่วมชี้แจงในการประชุม พร้อมแถลงข่าว
ร่วมกับรองศาสตราจารย์ชัชพล ไชยพร รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการกองกิจการในสมเด็จพระสังฆราช และกิจการสนองพระราชดำริ
สาระสำคัญของการแถลงข่าว
เป็นการอธิบายรายละเอียดการเพิ่มเติม “หมวด ๑/๑ วิธีปฏิบัติในกรณีความผิดที่มีหลักฐานชัดแจ้ง” และ “หมวด ๕/๑ การเร่งรัดการดำเนินการลงนิคหกรรม“ ลงในกฎมหาเถรสมาคมว่าด้วยการลงนิคหกรรม พ.ศ.๒๕๒๑ เพื่อให้เท่าทันต่อลักษณะของพยานหลักฐานซึ่งชัดแจ้งว่า
- พระภิกษุเสพเมถุนธรรม หรือต้องอาบัติปาราชิกอื่น หรือประพฤติผิดพระธรรมวินัยอย่างร้ายแรง กระชับขั้นตอนการชำระอธิกรณ์และการลงนิคหกรรมโดยเจ้าคณะปกครองผู้มีอำนาจ กำหนดกรอบระยะเวลาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
- กำหนดให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมีอำนาจร่วมกับคณะสงฆ์ในการดำเนินการในบางขั้นตอน ซึ่งเป็นการเพิ่มเติมจากเดิมที่ไม่มีกฎหมายและกฎมหาเถรสมาคมให้อำนาจดำเนินการแก่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไว้
ส่วนในการแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม ว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศ พ.ศ.๒๕๓๘ นั้น
ร่างกฎมหาเถรสมาคมได้กำหนดเพิ่มเติมอำนาจให้เจ้าคณะปกครองผู้มีอำนาจ มีคำสั่งให้พระภิกษุที่ประพฤติผิดพระธรรมวินัยเป็นอาจิณ หรือปรากฏข้อเท็จจริงหรือมีพยานหลักฐานชัดแจ้ง ว่ามีการกระทำเข้าข่ายความผิดประเภทครุกาบัติ และมีพฤติการณ์ว่าถ้าดำรงสมณเพศต่อไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่คณะสงฆ์ หรือมีการกระทำอันเป็นอาบัติระดับใดก็ตาม และมีพฤติการณ์ว่าถ้าดำรงสมณเพศต่อไปอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงแก่คณะสงฆ์ สละสมณเพศได้ทันที
พร้อมกันนี้ ยังได้ระบุวิธีการสึก กรณีต้องคำวินิจฉัยว่าอาบัติปาราชิกและกรณีเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงเพราะเหตุอื่นไว้ให้ชัดเจน อีกทั้งกำหนดอำนาจหน้าที่ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แจ้งหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อขอรับการสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการและอารักขา ให้การจัดการสละสมณเพศเป็นไปโดยสงบและเรียบร้อย ในกรณีพระภิกษุผู้ต้องคำสั่งให้สละสมณเพศ ขัดคำสั่งหรือไม่ยอมสละสมณเพศ
จากนี้ นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม จะได้นำขึ้นถวายเจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ทรงลงพระนาม ตราเป็นกฎมหาเถรสมาคม ว่าด้วยการลงนิคหกรรม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๘ และร่างกฎมหาเถรสมาคม ว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๘ ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในแถลงการคณะสงฆ์เป็นต้นไป
อ้างอิง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ







