'พายุวิภา' ถล่มไทย ปภ. เปิดวอร์รูมรับมือฉุกเฉิน 22 จว.เสี่ยงน้ำท่วม

'พายุวิภา' ถล่มไทย ปภ. เปิดวอร์รูมรับมือฉุกเฉิน 22 จว.เสี่ยงน้ำท่วม

ปภ. ประกาศพร้อมรับมือพายุ "วิภา" เปิดวอร์รูมฉุกเฉินด่วน สั่ง 22 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม เตรียมพร้อมเต็มกำลัง ระดมเครื่องจักร-เฮลิคอปเตอร์ช่วยประชาชน

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดย นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. ได้เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของ "พายุวิภา" ที่กำลังเคลื่อนตัวพาดผ่านร่องมรสุมเหนือประเทศไทย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการจาก 22 จังหวัดเสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เข้าร่วมประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

เตรียมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมากจากอิทธิพลพายุ “วิภา”

นายภาสกร บุญญลักษม์ เปิดเผยว่า กอปภ.ก. ได้ติดตามสภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด พบว่าในช่วงวันที่ 19 - 24 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออกด้านตะวันตก ด้วยความห่วงใยจากรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงได้สั่งการให้ ปภ. บูรณาการทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์และดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด

แจ้งเตือน 22 จังหวัดเสี่ยงภัยผ่าน Cell Broadcast และ SMS

เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเชิงรุก ปภ. โดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ AIS, True, และ NT ได้ส่งข้อความแจ้งเตือนผ่าน Cell Broadcast และ SMS ไปยังประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 22 จังหวัด ได้แก่ น่าน พะเยา เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร หนองบัวลำภู เลย อุดรธานี กาญจนบุรี ราชบุรี อุทัยธานี จันทบุรี และตราด โดยมีข้อความเตือนให้ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม พร้อมแนะนำให้ยกของขึ้นที่สูง เตรียมอพยพหากจำเป็น และเคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบางไปยังพื้นที่ปลอดภัย

พายุ "วิภา" มีแนวโน้มเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนในวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 และจะอ่อนกำลังลง แต่ยังคงส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและลมแรงในวันที่ 22 - 24 กรกฎาคม 2568 ประชาชนจึงควรติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

ระดมเครื่องจักรกลสาธารณภัยและเฮลิคอปเตอร์ เตรียมพร้อมช่วยเหลือ

นายภาสกร กล่าวต่อว่า ปภ. ได้ประสานจังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ให้เตรียมพร้อมทีมเผชิญเหตุและเครื่องจักรกลสาธารณภัยตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในช่วงฝนตกหนักวันที่ 22-23 กรกฎาคม 2568 อาทิ รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัยพร้อมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เครื่องสูบส่งระยะไกล รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย และเรือท้องแบน ซึ่งขณะนี้ได้กระจายเครื่องจักรกลเข้าประจำพื้นที่จุดเสี่ยง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำเป็นการล่วงหน้าแล้ว
 

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ศูนย์ ปภ. เขต 2 สุพรรณบุรี และศูนย์ ปภ. เขต 16 ชัยนาท สนับสนุนทีมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคเหนือ โดยมีศูนย์ ปภ.เขต 9 พิษณุโลก เป็นจุดระดมทรัพยากร (staging area) สำหรับเครื่องจักรกลสาธารณภัยของ ปภ.

ในวันนี้ ปภ. ยังได้ร่วมกับกองทัพบก (ทบ.) ส่งเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยประจำอากาศยานและทีมช่างประจำอากาศยาน หรือ “The Guardian Team” ไปประจำการที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการออกปฏิบัติการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เข้าถึงยาก ส่วนการดูแลด้านการดำรงชีพเบื้องต้น ปภ. ได้ประสานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเตรียมความพร้อมไว้แล้ว และในวันพรุ่งนี้ (21 ก.ค. 68) อธิบดี ปภ. และทีมงานจะลงพื้นที่ภาคเหนือเพื่อติดตามสถานการณ์และประสานการช่วยเหลือประชาชนอย่างครอบคลุม

เน้นย้ำการบริหารจัดการน้ำและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเป็นธรรม

นายภาสกร ย้ำว่า กอปภ.ก. ได้เน้นย้ำแนวทางการดำเนินงานร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งในส่วนกลาง จังหวัด อำเภอ ท้องถิ่น และท้องที่ ให้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัย โดยในพื้นที่ที่ยังมีสถานการณ์น้ำท่วม ให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามแผนเผชิญเหตุอย่างรวดเร็วและทั่วถึง โดยเฉพาะด้านการดำรงชีพ การดูแลความปลอดภัยและสภาพจิตใจ รวมถึงเร่งระบายน้ำและซ่อมแซมบ้านเรือนและเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด

สำหรับพื้นที่เสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบจากพายุ "วิภา" ให้หน่วยงานในพื้นที่ระดับท้องถิ่นและท้องที่ติดตามสถานการณ์และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนประชาชนให้รับทราบสถานการณ์และแนวทางการปฏิบัติอย่างปลอดภัย และเตรียมความพร้อมหากจำเป็นต้องมีการอพยพ โดยพิจารณาอพยพกลุ่มเปราะบางเป็นอันดับแรก และจัดเตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราวที่มีมาตรฐานและพร้อมดูแลผู้ประสบภัยทุกมิติ ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น ให้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ โดยเร่งระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วนเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ โดยให้ความสำคัญกับการรักษาชีวิตของประชาชนและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเป็นลำดับแรก

ในด้านการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ให้ตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงภัย กำหนดจุดสำหรับนำเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำไว้ล่วงหน้า สำรวจสิ่งก่อสร้างและวัสดุกีดขวางทางน้ำ และดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างสะดวก เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องประสานหน่วยงานต่างๆ สำรวจความเสียหายและจัดทำบัญชีความเสียหายครอบคลุมทุกด้านอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างเป็นธรรมและรวดเร็ว

ปภ. ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ ข้อมูลข่าวสาร และการแจ้งเตือนภัยจากทางราชการอย่างใกล้ชิด หากมีประกาศหรือคำเตือน ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด หากพบเห็นหรือได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทาง Line Official Account “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป