เปิดรายชื่อ 19 แพลตฟอร์มออนไลน์ บังคับใช้กฎหมาย DPS ป้องกันหลอกลวง

เปิดรายชื่อ 19 แพลตฟอร์มออนไลน์ บังคับใช้กฎหมาย DPS ป้องกันหลอกลวง

เปิดโผ 19 แพลตฟอร์มออนไลน์ยักษ์ใหญ่ ทั้ง Shopee, Lazada และ Grab เตรียมรับไม้บังคับใช้กฎหมาย DPS เพื่อคุมเข้มการหลอกลวงและยกระดับความปลอดภัยให้ผู้บริโภค

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทย โดย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA กำลังเร่งบูรณาการความร่วมมืออย่างเป็นระบบเพื่อป้องกันและรับมือกับปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำกับดูแลแพลตฟอร์มดิจิทัลภายใต้กฎหมาย Digital Platform Services (DPS) ซึ่งล่าสุดได้มีการประกาศรายชื่อบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลประเภทตลาดสินค้าที่ต้องปฏิบัติตามมาตรา 20 แห่งพระราชกฤษฎีกาการประกอบบริการแพลตฟอร์มที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. 2565 โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป

19 แพลตฟอร์มต้องบอกมาตรฐานสินค้าที่ขายใหเว็บ

  1. ช้อปปี้ (Shopee)
  2. ลาซาด้า (Lazada)
  3. วันทูคาร์ (One2car.com) – ประกาศซื้อขายรถยนต์มือสอง
  4. แกร็บ (Grab)
  5. ขายดี (Kaidee.com)
  6. เอสไอเอ อี-อ๊อกชันซิสเต็ม (SIA E-AUCTION SYSTEM)
  7. ไลน์ช้อปปิ้ง (LINE SHOPPING)
  8. อาลีบาบา (Alibaba)
  9. น็อกน็อก (NocNoc)
  10. อาลีเอ็กซ์เพรส (AliExpress)
  11. ดิสช็อป (Thisshop)
  12. รักเหมา (Rakmao)
  13. เถาเป่า (Taobao)
  14. เอสซีจี โฮม (SCGHome)
  15. วันสยาม แอปพลิเคชัน (ONESIAM Application)
  16. เรดดี้พลาสติก อ็อกชัน (ReadyPlastic Auction)
  17. รูทส์แพลตฟอร์ม (ROOTS Platform)
  18. เทอมู (TEMU)
  19. อีเบย์ (eBay)
     

หน้าที่เพิ่มเติมสำหรับ 19 แพลตฟอร์มภายใต้ ม. 20 ของกฎหมาย DPS

แพลตฟอร์มทั้ง 19 แห่งนี้จะต้องมีหน้าที่เพิ่มเติมตามมาตรา 20 ของกฎหมาย DPS นอกเหนือจากหน้าที่ทั่วไปที่กำหนดไว้ ซึ่งรวมถึง:

  • การประเมินความเสี่ยงและจัดทำมาตรการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ : เพื่อลดโอกาสเกิดปัญหาจากการหลอกลวงหรือสินค้าไม่ได้มาตรฐาน
  • การดำเนินการอื่นตามประกาศของคณะกรรมการ : เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ขายก่อนอนุญาตให้ขายหรือโฆษณาสินค้าที่ต้องมีมาตรฐาน และการตรวจสอบหลักฐานที่เกี่ยวข้องก่อนเปิดขายสินค้าที่มีข้อกำหนดเรื่องมาตรฐาน
  • การแสดงข้อมูลมาตรฐานสินค้าอย่างชัดเจนบนหน้าร้านค้า : เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลสำคัญได้ง่าย
  • การมีกลไกแจ้งเตือนและนำออกสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน : เพื่อความรวดเร็วในการจัดการกับสินค้าที่เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ปลอดภัย
  • การกำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืน : เพื่อสร้างความรับผิดชอบและป้องกันการกระทำผิดซ้ำ

เกณฑ์การคัดเลือกแพลตฟอร์มเข้าข่ายความเสี่ยงสูง

นายอนุกูลกล่าวว่า แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ถูกประกาศรายชื่อข้างต้น ถือเป็นแพลตฟอร์มประเภทตลาดสินค้าออนไลน์ที่เข้าข่ายมีความเสี่ยงสูง และอาจส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยมีลักษณะเข้าเกณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้:

  • มีมูลค่าธุรกรรมในราชอาณาจักรเกิน 100 ล้านบาทต่อปี
  • ไม่ได้จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) แต่มีผู้ประกอบการ 100 รายขึ้นไป
  • ไม่ได้จดทะเบียนกับ DBD แต่มีผู้ใช้บริการเกินกว่า 5% แต่ไม่เกิน 10% (เฉลี่ยต่อเดือน)
  • ผู้ใช้บริการสามารถกระทำการใดโดยไม่มีมาตรการควบคุมดูแลที่มีประสิทธิภาพ
     

ETDA ยังคงเดินหน้าตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมกับแพลตฟอร์มดิจิทัลอื่นๆ อีกจำนวนมาก หากพบว่าเข้าเกณฑ์ข้างต้น ก็จะมีการประกาศรายชื่อเพิ่มเติมต่อไป โดยกฎหมาย DPS มาตรา 24 กำหนดให้มีการ "ทบทวนรายชื่อ" แพลตฟอร์มเป็นประจำทุกปี ดังนั้น รายชื่อที่ประกาศข้างต้นอาจมีการเพิ่ม ลด หรือปรับเปลี่ยนได้ตามลักษณะการให้บริการที่เปลี่ยนแปลงไป

การบังคับใช้กฎหมาย DPS นี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของรัฐบาลไทยในการสร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในการทำธุรกรรมออนไลน์ รวมถึงส่งเสริมการประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มดิจิทัลให้มีความรับผิดชอบและโปร่งใสมากยิ่งขึ้น

หากคุณเป็นผู้ประกอบการแพลตฟอร์มดิจิทัล หรือผู้ใช้งานแพลตฟอร์มดังกล่าว มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมาย DPS หรือต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ ETDA เพื่อขอคำแนะนำได้.