กรมชลฯ สั่งเฝ้าระวัง 16 จังหวัด รับมือน้ำท่วม 19-24 ก.ค. ฝนถล่มหนัก

ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังจะเผชิญกับสถานการณ์ฝนตกเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ ระหว่างวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568 นี้ จากอิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังค่อนข้างแรงขึ้น

นอกจากนี้ พายุดีเปรสชันบริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และคาดว่าจะเคลื่อนผ่านตอนบนของประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในช่วงวันที่ 19-22 กรกฎาคม 2568 ซึ่งจะส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น และส่งผลกระทบต่อทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยอย่างต่อเนื่อง

พื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก

กรมชลประทานได้ระบุพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนัก ดังนี้

• ภาคเหนือ : เชียงราย, พะเยา, น่าน, แพร่, อุตรดิตถ์, ตาก
• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : หนองคาย, บึงกาฬ, สกลนคร, นครพนม
• ภาคกลาง : อุทัยธานี, กาญจนบุรี
• ภาคตะวันออก : จันทบุรี, ตราด
• ภาคใต้ : ระนอง, พังงา

มาตรการรับมือจากกรมชลประทาน

เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว กรมชลประทานได้สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่ดำเนินการอย่างใกล้ชิด ดังนี้:

• ติดตามสถานการณ์ : เฝ้าระวังสภาพอากาศและภาพรวมสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
• เตรียมความพร้อม : เตรียมความพร้อมด้านเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล และอุปกรณ์ช่วยเหลือในพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้สามารถเข้าดำเนินการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที
• ตรวจสอบอาคารชลประทาน : ตรวจสอบอาคารชลประทานทุกแห่งให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ปรับแผนบริหารจัดการน้ำ : ปรับแผนการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณฝนและน้ำท่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น
• ประสานงานและแจ้งเตือน : ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที

ประชาชนที่พบปัญหาน้ำท่วม หรือมีข้อกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ สามารถติดต่อโครงการชลประทานในพื้นที่ หรือโทรสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง