'สีกากอล์ฟ' สารภาพสัมพันธ์พระผู้ใหญ่ แฉหมดเปลือกปมในใจ

"สีกากอล์ฟ" รับสารภาพสัมพันธ์พระผู้ใหญ่! เปิดปมในใจถูกพ่อทิ้ง สู่วังวนคบหาพระหลายรูป พร้อมแฉเส้นทางเงินมหาศาล และอดีตพระแฉซ้ำโดนล่อลวง-ยืมเงิน
ความคืบหน้ากรณี "สีกากอล์ฟ" หรือ น.ส.วิลาวัลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี พัวพันกับพระผู้ใหญ่หลายรูป ล่าสุด (16 ก.ค. 68) พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เปิดเผยถึงผลการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ เมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) ว่า เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี โดยในวันพรุ่งนี้ (17 ก.ค.) พนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะนำตัว น.ส.วิลาวัลย์ ส่งฝากขังต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางเป็นผัดแรก
จากการสอบปากคำเบื้องต้น น.ส.วิลาวัลย์ "ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา" พร้อมยอมรับว่าเคยคบหาหรือมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่หลายรูปตามที่เป็นข่าวจริง โดยสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่มีปมในอดีตที่ถูกพ่อทอดทิ้งไปตั้งแต่เด็ก ทำให้เติบโตมาในครอบครัวที่ขาดความอบอุ่น
น.ส.วิลาวัลย์ เปิดเผยว่า พระผู้ใหญ่รูปแรกที่คบหาคือ อดีตพระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง โดยคบหากันตั้งแต่ปี 2556 ถึงปี 2558 ซึ่งความสัมพันธ์กับอดีตพระรูปนี้สร้างความช้ำใจและเจ็บปวดมากที่สุดในบรรดาพระทุกรูปที่เคยคบหา
ตรวจสอบเส้นทางการเงิน : เงินสะพัดกว่า 385 ล้านบาท เหลือ 8,000 บาท
จากการสืบสวนขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินของ น.ส.วิลาวัลย์ พบว่ามีบัญชีธนาคารส่วนตัว 2 บัญชี ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีพระผู้ใหญ่รวมถึงบุคคลทั่วไปโอนเงินเข้ามาให้เป็นจำนวนมาก รวมเป็นเงินกว่า 385 ล้านบาท การที่มีพระผู้ใหญ่คอยให้เงินใช้จ่ายไม่ขาดมือทำให้ น.ส.วิลาวัลย์ ติดนิสัยใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอย่างหนัก เคยเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าและของใช้แบรนด์เนมในห้างสรรพสินค้าวันเดียวกว่า 3 ล้านบาท รวมถึงเล่นพนันออนไลน์ครั้งละ 5 แสนบาท โดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมา ปัจจุบันเหลือเงินในบัญชีเพียง 8,000 บาทเท่านั้น
อดีตพระมหาบุญเลิศแฉ! ตกเป็นเหยื่อ "สีกากอล์ฟ" ถูกกอดจูบลูบคลำ-ยืมเงินแสนไม่คืน
ในวันเดียวกัน (15 ก.ค. 2568) อดีตพระมหาบุญเลิศ ช่วยธานี พระลูกวัดวัดใหม่ยายแป้น หนึ่งในพระที่ต้องลาสิกขาเพราะมีชื่อพัวพันกับ "สีกากอล์ฟ" ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของ "สีกากอล์ฟ" โดยมีรายงานว่าอดีตพระมหาบุญเลิศจะเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบอีกครั้งภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ "สีกากอล์ฟ" โดยอ้างว่าตนเองเป็นหนึ่งในเหยื่อที่ถูกกระทำ
อดีตพระมหาบุญเลิศ เล่าว่ารู้จัก "สีกากอล์ฟ" ผ่านทางอดีตพระปลัดสุรพล อดีตเจ้าอาวาสวัดพรหมเกษร จ.พิษณุโลก ซึ่งสนิทสนมกับ "สีกากอล์ฟ" ก่อนที่ "สีกากอล์ฟ" จะพยายามเข้ามาตีสนิท โดยทำทีขอความช่วยเหลือให้ตนไปช่วยดูพระนางพญาที่บ้านพัก ซึ่ง 2-3 ครั้งแรกที่ไปไม่มีเรื่องราวเกินเลย เพราะตนระวังตัวและมีเด็กอยู่ในบ้าน
จนกระทั่งครั้งที่ 4 "สีกากอล์ฟ" ติดต่อให้มาหาที่บ้านพักอีกครั้ง อ้างว่าลูกป่วยตัวร้อน อยากให้ช่วยดู ด้วยความสงสารเด็กตนจึงตัดสินใจไป และมีการนอนค้างที่บ้าน "สีกากอล์ฟ" แต่แยกห้องนอน กลางดึกขณะที่ตนกำลังนอนหลับ "สีกากอล์ฟ" ได้บุกเข้ามาในห้องนอนแล้วโผเข้ากอดจูบลูบคลำ ด้วยความขาดสติจึงเผลอใจปล่อยตัวร่วมหลับนอนด้วยกัน
หลังเหตุการณ์วันนั้น อดีตพระมหาบุญเลิศรู้สึกผิดที่ไม่หักห้ามใจ จึงตัดสินใจไม่รับเป็น "พระอุปัชฌาย์" ทำหน้าที่บรรพชาอุปสมบทให้กับพระใหม่อีกเลย นอกจากนี้ "สีกากอล์ฟ" ยังเคยยืมเงินส่วนตัวของตนเป็นเงินกว่า 1 แสนบาท อ้างว่าป่วยไม่มีเงินหาหมอ ตนจึงให้ยืมไป แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้คืน อดีตพระมหาบุญเลิศมองว่าตนเองก็ถือเป็นเหยื่อจากการกระทำดังกล่าวด้วยเช่นกัน







