ฮิตมาก 'ลองแตะ' ตำรวจเตือนล่าสุด กลลวงมิจฉาชีพ แอบอ้าง ได้ผลจริง

ฮิตมาก "ลองแตะ" ตำรวจเตือนล่าสุด เปิดโปง 3 ข้อแอบอ้าง กลลวงมิจฉาชีพ แผนคนโกงใช้บ่อย แถมได้ผลจริง ย้ำชัดตำรวจ มีอำนาจอายัดเงิน ไม่จำเป็นให้ประชาชนโอนเงินมาให้ตรวจสอบ
คนไทยต้องรู้ไม่อยากถูกโกง เสียเงินเปล่าต้องรู้ ฮิตมาก "ลองแตะ" ตำรวจเตือนล่าสุด เปิดโปง 3 ข้อแอบอ้างสุดคลาสสิก กลลวงมิจฉาชีพ แผนคนโกงใช้บ่อย แถมได้ผลจริง ย้ำชัดตำรวจ มีอำนาจอายัดเงิน ตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ด้วยตนเอง ไม่จำเป็นต้องให้ประชาชนโอนเงินมาให้ตรวจสอบ
วันนี้ 16 กรกฎาคม 2568 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกโรงเตือนภัยประชาชนให้ระวังกลลวงใหม่ของมิจฉาชีพที่กำลังระบาดหนักในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่มีบุคคลแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ วิดีโอคอลมาหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบทรัพย์สิน อ้างว่าเกี่ยวข้องกับคดีผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่มิจฉาชีพใช้หลอกเหยื่อมาแล้วหลายรายและได้ผลจริง
เปิดโปง 3 ข้ออ้างสุดคลาสสิกของมิจฉาชีพ แผนคนโกงใช้บ่อย
พฤติกรรมของมิจฉาชีพกลุ่มนี้มักจะอ้าง 3 ข้อหลัก ๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและกดดันเหยื่อ โดยเริ่มต้นจากการ
อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ
มิจฉาชีพจะแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ, DSI (กรมสอบสวนคดีพิเศษ), ปปง. (สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) หรือเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอื่น ๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและทำให้เหยื่อตกใจ
อ้างว่าทำผิดกฎหมาย
จากนั้นจะแจ้งว่าเหยื่อมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีผิดกฎหมาย หรือมีข้อมูลว่าไปพัวพันกับสิ่งผิดกฎหมาย และกำลังทำการสอบสวนออนไลน์อยู่
อ้างให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบ
สุดท้ายจะขอให้แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการ "โอนเงิน" มาให้ตรวจสอบ โดยอ้างว่าเป็นการตรวจสอบทรัพย์สินหรือเส้นทางการเงิน ซึ่งแท้จริงแล้วคือการหลอกลวงให้โอนเงินนั่นเอง
ระวัง อาจถูกข่มขู่ให้กระทำอนาจาร
นอกจากกลลวงข้างต้นแล้ว ในบางกรณี มิจฉาชีพอาจจะใช้วิธีการข่มขู่ โดยขอให้เหยื่อถอดเสื้อผ้า หรือถ่ายคลิปวิดีโอเพื่อสร้างความอับอายและควบคุมเหยื่อให้ปฏิบัติตามคำสั่ง นี่เป็นสัญญาณอันตรายที่ชัดเจนว่าคุณกำลังถูกหลอกลวงอย่างแน่นอน
ตำรวจย้ำชัด อย่าเชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอย้ำเตือนประชาชนว่า ตำรวจมีอำนาจในการอายัดเงินหรือตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วยตนเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้ประชาชนโอนเงินมาให้ตรวจสอบแต่อย่างใด หากมีผู้ใดอ้างให้โอนเงินหรือทรัพย์สินเพื่อการตรวจสอบ ถือเป็นมิจฉาชีพอย่างแน่นอน
ข้อควรจำ
- ไม่เชื่อ : อย่าหลงเชื่อคำกล่าวอ้างของบุคคลที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะผู้ที่วิดีโอคอลมาอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่และแจ้งเรื่องคดีความ
- ไม่รีบ : อย่าตกใจหรือรีบดำเนินการตามที่มิจฉาชีพสั่ง การรีบร้อนตัดสินใจอาจทำให้ตกเป็นเหยื่อได้ง่าย
- ไม่โอน : ห้ามโอนเงินหรือทรัพย์สินใด ๆ ให้กับบุคคลที่แอบอ้างว่าต้องตรวจสอบเด็ดขาด
หากมีข้อสงสัย หรือพบเห็นเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว สามารถสอบถามข้อมูลหรือแจ้งเหตุได้ที่ สายด่วน 1441 หรือแจ้งความออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ thaipoliceonline.go.th เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
อ้างอิง-ภาพ : สำนักงานตำรวจแห่งชาติ







