เปิดโปงขบวนการ! 'สีกากอล์ฟ' พัวพันพระ 13 รูป กวาดเงิน 385 ล้านบาท

เปิดโปงขบวนการ! 'สีกากอล์ฟ' พัวพันพระ 13 รูป กวาดเงิน 385 ล้านบาท

"พล.ต.ต.จรูญเกียรติ" นำแถลงปฏิบัติการจับกุม "สีกากอล์ฟ" หลังศาลออกหมายจับ 3 ข้อหาหนัก พบเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท เปิดโปงความสัมพันธ์ลับกับ พระสงฆ์ถึง 13 รูป

วันนี้ (15 ก.ค. 68) ตำรวจสอบสวนกลางแถลงข่าวจับกุม "สีกากอล์ฟ" หญิงสาวผู้ต้องหาคดีกรรโชกทรัพย์พระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ "เจ้าคุณอาชว์" อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ และขยายผลพบความเกี่ยวข้องกับพระสงฆ์อีกหลายรูป พร้อมเปิดเผยเส้นทางการเงินกว่า 385 ล้านบาท ในรอบ 3 ปี

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า คดีนี้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 จากการกรรโชกทรัพย์เจ้าคุณอาชว์ ซึ่งต่อมาได้หายตัวไปและลาสิกขาเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 การสืบสวนพบว่า สีกากอล์ฟมีความสัมพันธ์กับเจ้าคุณอาชว์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 ก่อนจะเรียกร้องเงินค่าเลี้ยงดูบุตรรวมกว่า 7 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 20 ปี

เปิดโปงขบวนการ! 'สีกากอล์ฟ' พัวพันพระ 13 รูป กวาดเงิน 385 ล้านบาท

จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินและข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือ พบความเชื่อมโยงกับพระสงฆ์อีกหลายวัด รวมถึงคลิปวิดีโอที่แสดงพฤติกรรมการกรรโชกทรัพย์และแบล็กเมล์ ซึ่งนำไปสู่การออกหมายจับและจับกุมสีกากอล์ฟในวันนี้
 

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้ไม่มีเจตนาทำลายสถาบันพระพุทธศาสนา แต่เป็นการหยุดยั้งกระบวนการที่จะสร้างความเสียหาย และจะดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการละเว้น ขณะนี้มีพระสงฆ์ที่พัวพันทยอยลาสิกขาไปแล้ว 9 รูป จาก 13 รูป และจำนวนผู้เกี่ยวข้องมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ด้าน พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวเสริมว่า สีกากอล์ฟเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันที่จังหวัดพิจิตร ซึ่งตำรวจได้นำข้อมูลมาเปรียบเทียบและพบพฤติการณ์ซ้ำซ้อน จึงกลับมาตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียด พบว่ามีพระสงฆ์จำนวนมากโอนเงินให้สีกากอล์ฟ

แบ่งกลุ่มพระสงฆ์ที่เกี่ยวข้องเป็น 3 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 : พระสงฆ์ 9 รูป ที่สีกากอล์ฟยอมรับว่ามีความสัมพันธ์เสพเมถุนด้วยกัน โดย 8 รูปได้ลาสิกขาไปแล้ว เหลืออีก 1 รูปคือ เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก

กลุ่มที่ 2 : พระสงฆ์ 3 รูป ที่มีความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาว ซึ่งถือว่าผิดวินัยร้ายแรง

กลุ่มที่ 3 : พระสงฆ์ที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม

ตำรวจได้ให้ความสำคัญกับกลุ่มแรกที่มีทั้งเส้นทางการเงินและพฤติการณ์เสพเมถุน ซึ่งเมื่อพระสงฆ์เหล่านั้นเห็นหลักฐาน ก็สมัครใจลาสิกขาตามที่เป็นข่าว
 

ล่าสุดในวันนี้ (15 กรกฎาคม) ตำรวจได้นำพยานหลักฐานกรณีอดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ นำเงินวัดเข้าบัญชีตนเองและโอนให้สีกากอล์ฟจำนวนหนึ่ง ไปขอหมายศาลอาญาทุจริตกลาง เพื่อจับกุมใน 3 ข้อหา ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวน

สำหรับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบมีเงินหมุนเวียนสูงถึง 385 ล้านบาท ในรอบ 3 ปี แต่ถูกถอนออกไปเกือบทั้งหมด เหลือเพียงประมาณ 8,000 บาท โดยพบว่ามีการนำเงินบางส่วนไปเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งในส่วนนี้ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กำลังดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติม พบยอดสูงสุดที่นำไปเล่นพนันถึง 500,000 บาท

พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวเสริมว่า เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสีกากอล์ฟในข้อหาฉ้อโกง และในวันเดียวกัน อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร (ลาสิกขาแล้ว) ก็ได้เข้าร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินคดีในข้อหารีดเอาทรัพย์และทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ

พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลอาญาออกหมายจับสีกากอล์ฟในข้อหารีดเอาทรัพย์และทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ ซึ่งขณะนี้สีกากอล์ฟถูกควบคุมตัวในคดีของ บก.ปปป. ขั้นตอนต่อไปพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามจะแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาและสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป