เช็กเลย! กฎใหม่ปฏิวัติการเงินวัด คุมเข้มการเงินวัดทั่วประเทศ

มหาเถรสมาคม (มส.) เตรียมออกกฎเหล็กปฏิวัติการเงินวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่ 1 ต.ค. 68 นี้ เพื่อความโปร่งใสและฟื้นฟูศรัทธาพุทธศาสนิกชน
วันนี้ (14 ก.ค. 68) มหาเถรสมาคม (มส.) เตรียมบังคับใช้กฎกระทรวงฉบับใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อปฏิรูปการบริหารจัดการเงินบริจาคของวัดทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความโปร่งใสและฟื้นฟูศรัทธาของพุทธศาสนิกชน หลังเกิดวิกฤตศรัทธาในพุทธศาสนาจากกรณีพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ประพฤติมิชอบ
มาตรการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากการประชุมวุฒิสภา ซึ่ง นายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สว. ได้ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับวิกฤตศรัทธาในพุทธศาสนา โดยมี นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตอบกระทู้แทน ซึ่งนายสุชาติได้เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างกฎหมายใหม่ ซึ่งอาจรวมไปถึงการเอาผิดเรื่องการเรี่ยไรและการบริจาค
แนวทางปฏิบัติใหม่ เน้นความโปร่งใสและตรวจสอบได้
รศ.ดร.ชัชพล ไชยพร รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ได้เปิดเผยถึงมติ มส. ครั้งที่ 16/2568 เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 ซึ่งเห็นชอบแนวทางการเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร การเบิกถอนเงิน และการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายของวัด โดยมีสาระสำคัญดังนี้
การเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร:
- วัดต้องเปิดบัญชีกับธนาคารที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเดียวกันเท่านั้น
- ชื่อบัญชีต้องระบุเพียง “เงินของวัด…” หรือ “วัด…” ห้ามมีชื่อบุคคลอื่นต่อท้าย
- ผู้มีอำนาจลงนามถอนเงิน/สั่งจ่ายเช็ค ต้องมีอย่างน้อย 3 รูป/คน ประกอบด้วย เจ้าอาวาส ไวยาวัจกร และบุคคลที่เจ้าอาวาสเห็นสมควร
- การถอนเงินหรือสั่งจ่ายเช็ค ต้องมีผู้ลงนาม 2 ใน 3 โดยมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง
- การถอนเงินต้องใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเงินฝากเท่านั้น
การจัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย:
- วัดทุกวัดต้องจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายและบันทึกทุกครั้งที่มีรายการรับ-จ่าย
- สรุปเป็นรายเดือน และรวบรวมส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) หรือสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยเก็บสำเนาไว้ที่วัด
- จัดทำรายงานเงินคงเหลือ ณ วันสุดท้ายของเดือน รายงานทั้งเงินสด เช็ค และเงินฝากธนาคาร และส่ง พศ./พศจ. ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป
ส่งเสริมระบบบัญชีมาตรฐานและ e-Donation
มส. ยังได้ส่งเสริมให้วัดใช้ ระบบบัญชีมาตรฐานสำหรับวัดของ พศ. ซึ่งหากวัดใดนำระบบนี้มาใช้ จะไม่ต้องจัดทำบัญชีตามข้อ 1 และ 2 ข้างต้น แต่ต้องรายงานบัญชีมาตรฐานดังกล่าวให้ พศ./พศจ. ทราบภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้วัดพิจารณาใช้ ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) เพื่อรองรับข้อมูลการรับบริจาค
บทบาทของเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์และการตรวจสอบ
มติ มส. ยังได้เน้นย้ำให้เจ้าอาวาสปฏิบัติตามมติฉบับนี้อย่างเคร่งครัด และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์กำกับดูแลเจ้าอาวาสในเขตปกครองให้บริหารศาสนสมบัติของวัดเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง หากไม่ปฏิบัติตามจะถือว่ามีความผิดฐานละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ และอาจมีโทษได้
ความร่วมมือในการตรวจสอบบัญชี
มส. ยังได้มอบหมายให้ พศ. ดำเนินการกำหนดแบบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัด และให้คำแนะนำในการจัดทำบัญชี รวมถึงประสานงานกับหน่วยงานตรวจสอบ เช่น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สำนักงานตรวจสอบภายในระดับจังหวัด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจสอบบัญชีของวัดอย่างเหมาะสม และรายงานผลการตรวจสอบให้ มส. ทราบ โดยทั้งหมดนี้จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
มาตรการใหม่นี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการปฏิรูปการบริหารจัดการเงินวัด และเป็นความพยายามที่จะฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อพุทธศาสนาในประเทศไทย







