ฝนใหม่มาแน่! กรมชลฯ สั่งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม 24 ชั่วโมง

แม้ สถานการณ์อุทกภัย จาก ฝนตกหนัก ในช่วง 3 วันที่ผ่านมาในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออกจะเริ่มคลี่คลายลงแต่ กรมชลประทาน ยังคงไม่วางใจ โดย นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน ได้เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้ม สถานการณ์น้ำ ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนระลอกใหม่ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าจะเข้ามาในช่วงวันที่ 14-19 กรกฎาคมนี้

การประชุมครั้งนี้มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างคับคั่ง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รวมถึงสำนักงานชลประทานที่ 1-17 เพื่อติดตามและวิเคราะห์สภาพอากาศและสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำและแม่น้ำสายหลักต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี

ปัจจุบัน (14 ก.ค. 68) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศมีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 44,275 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 58% ของความจุอ่างฯ รวมกัน และยังสามารถรับน้ำได้อีกกว่า 32,227 ล้านลูกบาศก์เมตร

สำหรับ 4 เขื่อนหลักในลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 13,567 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 55% ของความจุอ่างฯ รวมกัน และยังสามารถรองรับน้ำได้อีก 11,304 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งภาพรวมปริมาณน้ำเก็บกักยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี

เร่งระบายน้ำและให้ความช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัย

จากสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบใน 3 จังหวัด ได้แก่

จังหวัดตราด : อำเภอเขาสมิง โครงการชลประทานตราด สำนักชลประทานที่ 9 ได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชน และเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

จังหวัดนครพนม : 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาหว้า อำเภอศรีสงคราม อำเภอเรณูนคร อำเภอนาแก อำเภอวังยาง และอำเภอโพนสวรรค์ โครงการชลประทานนครพนม สำนักงานชลประทานที่ 7 ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำรวม 20 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ำบ้านหนองบัว ประตูระบายน้ำน้ำอูน และสะพานมิตรภาพลำน้ำอูน พร้อมแจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง และเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือช่วยเหลือผู้ประสบภัย

จังหวัดสกลนคร : อำเภอโพนนาแก้ว โครงการส่งและบำรุงรักษาน้ำก่ำ สำนักงานชลประทานที่ 7 ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำบริเวณประตูระบายน้ำบ้านหนองบึง เพื่อเร่งระบายน้ำในลำน้ำก่ำ และแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง

เตรียมรับมือฝนระลอกใหม่ และมาตรการป้องกันน้ำท่วม

กรมอุตุฯ คาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 14-19 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยตอนบนจะยังคงมีฝนตกกระจายตัวเล็กน้อยถึงปานกลาง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ซึ่งยังคงต้องระวังฝนตกสะสม น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ส่วนภาคใต้ยังมีฝนบางแห่งและคลื่นลมเบาลง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงมีกำลังปานกลาง

นายเดช เล็กวิชัย ได้กำชับให้โครงการชลประทานในพื้นที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด นำข้อมูลมาวิเคราะห์วางแผนการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และพิจารณาปรับการระบายน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อท้ายเขื่อน เพื่อรองรับปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้น ตามข้อสั่งการของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.)

ที่สำคัญคือให้ปฏิบัติตาม 9 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2568 อย่างเคร่งครัด ตรวจสอบอาคารชลศาสตร์และกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงกำหนดพื้นที่เสี่ยง และมอบหมายเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรเครื่องมือประจำจุดเสี่ยง เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที ลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด ตามข้อสั่งการของ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์