อัปเดต! บุกค้น 19 จุด นายทุนคอลเซ็นเตอร์ 'ก๊ก อาน' คนใกล้ชิด 'ฮุน เซน'

ตำรวจบุกค้น 19 จุด ทลายเครือข่ายนายทุนคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ “KOK AN” ก๊ก อาน คนใกล้ชิด "ฮุน เซน" เชื่อมโยงฐานปฏิบัติการปอยเปต
KEY
POINTS
- ตำรวจไซเบอร์บุกเข้าตรวจค้น 19 จุด เพื่อทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติของนาย "ก๊ก อาน" ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดกับอดีตผู้นำกัมพูชา "ฮุน เซน"
- นาย "ก๊ก อาน" เป็นเจ้าของคราวน์คาสิโนในปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการหลักในการหลอกลวงคนไทย และถูกออกหมายจับในข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและฟอกเงิน
- เครือข่ายนี้มีพฤติกรรมหลอกลวงคนไทยไปทำงานเป็นบัญชีม้า กักขังหน่วงเหนี่ยว และบังคับให้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันธุรกรรมผิดกฎหมาย
- จากการตรวจค้น สามารถยึดรถยนต์ได้หลายคันและอายัดเงินสดได้กว่า 27 ล้านบาท
รายงานแจ้งด่วน! ตำรวจไซเบอร์บุกค้น 19 จุด ทลายเครือข่าย นายทุนคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ “KOK AN” คนใกล้ชิด "ฮุน เซน" เชื่อมโยงฐานปฏิบัติการปอยเปต อายัดเงินกว่า 27 ล้าน
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รอง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง
นำหมายค้นของศาลอาญาอนุมัติหมายจับ MR.Kok An หรือ “ก๊ก อาน” สัญชาติกัมพูชา เจ้าของเครือข่าย crown casino resort ฐานปฏิบัติแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา และเขาเป็นคนสนิทของ ฮุน เซน พ่อนายกรัฐมนตรีกัมพูชา
ในข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ แหล่งฟอกเงิน พร้อมทั้งนำกำลังเจ้าหน้าที่กระจายกันเข้าทำการตรวจค้นเป้าหมาย 19 จุดในพื้นที่ กทม., สมุทรปราการ และ ชลบุรี
การตรวจค้นบ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ ก่อนนำหมายค้นของศาลอาญาตรวจค้นเพื่อ หาเพื่อหลักฐานและจับกุมกลุ่ม "ก๊ก อาน" หรือ MR. Kok An เจ้าของ เครือ crown casino resort ตึก 25 ชั้น , ตึก 18 ชั้น , ฐานปฏิบัติ แก๊งคลอเซนเตอร์ขนาดใหญ่ เมืองปอยเปต ที่หลอกลวงคนไทย ประเทศกัมพูชา ในข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ แหล่งฟอกเงิน
บช.สอท. ได้มีคำสั่งที่ 172/2568 เรื่องแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวน เพื่อทำการสืบสวนคดีที่เกี่ยวเนื่องกับ คดีอาญา บก.สอท.1 ที่ 22/2567, คดีที่ 287/2567 และคดีอาญา บก.สอท.4 ที่ 243/2568 ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกัน
โดยมีการกระทำความผิดอันมีลักษณะขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ประกอบด้วยบุคคลหลายสัญชาติ มีการแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการอยู่ ณ สถานที่หลายแห่งในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา อาทิ อาคาร 25 ชั้น, อาคาร 18 ชั้น, อาคาร HISO และอาคาร Crown Casino
โดยกลุ่มคนร้ายใช้สถานที่ทำการหลอกลวงทางออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ เช่น Hybrid Scam, Call Center และการฟอกเงินผ่านบัญชีม้าและสกุลเงินดิจิทัล มีการใช้แรงงานคนไทยจำนวนมากที่ถูกหลอกไปทำงานในลักษณะบัญชีม้า พร้อมบังคับให้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันธุรกรรม และมีพฤติกรรมกักขังหน่วงเหนี่ยวบุคคลในต่างประเทศ
จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหาบุคคลสัญชาติกัมพูชา เป็นเจ้าของสถานที่อาคารให้ขบวนการกลุ่มคนร้ายอาชญากรรมข้ามชาติใช้ในการก่อเหตุ อันมีส่วนร่วมกระทำการใด ๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติดังกล่าว
การดำเนินกิจกรรมหรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ อันเป็นการจัดการ สั่งการ ช่วยเหลือ ยุยง อำนวยความสะดวก หรือให้คำปรึกษาในการกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยรู้ถึงวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจกรรมหรือโดยรู้ถึงเจตนา ที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติด้วย อันมีพยานหลักฐานเพียงพอว่าผู้ต้องหาน่าจะได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา
พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา ศาลอาญาอนุญาตให้ออกหมายจับผู้ต้องหา ตามคำร้องหมายจับที่ 3924/2568 ลงวันที่ 7 ก.ค. 68 เพื่อให้สืบสวนจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
มีรายงานว่าจากการตรวจค้นทั้งหมด 19 จุด โดยในเบื้องต้น สามารถตรวจยึดรถยนต์จำนวนหลายคันพร้อมกับยึดอายัดเงินจำนวน 27 ล้านบาท หลังจากนี้ทางตำรวจไซเบอร์จะแถลงข้อเท็จจริงอีกครั้ง





