รพ.จุฬาฯ สร้างประวัติศาสตร์! ผ่าตัดรักษา โรคหยุดหายใจขณะหลับ สำเร็จ

ทีมแพทย์ รพ.จุฬาลงกรณ์ สร้างประวัติการณ์! ผ่าตัดรักษาโรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (OSA) ด้วยเทคนิคใหม่ HGNS สำเร็จเป็นแห่งแรกในประเทศไทย และแห่งที่สี่ในเอเชีย
ทีมแพทย์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ประสบความสำเร็จครั้งสำคัญในการนำ เทคนิคการผ่าตัดกระตุ้นเส้นประสาทสมองคู่ที่ 12 (Hypoglossal Nerve Stimulation หรือ HGNS) มารักษาผู้ป่วยโรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) ได้เป็นแห่งแรกในประเทศไทย และเป็นแห่งที่สี่ในทวีปเอเชีย ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการเพิ่มทางเลือกและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วย
ความสำเร็จครั้งแรกในไทยและอันดับสี่ในเอเชีย
ทีมแพทย์จากศูนย์นิทราเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ซึ่งประกอบด้วยบุคลากรจากหลายฝ่าย อาทิ โสต ศอ นาสิกวิทยา, อายุรศาสตร์ (หน่วยโรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤต), การพยาบาล และวิสัญญีวิทยา ได้ประกาศความสำเร็จในการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยโรค OSA ด้วยเทคนิค HGNS ซึ่งเป็นนวัตกรรมการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง การผ่าตัดด้วยวิธีนี้เคยมีการดำเนินการมาแล้วในประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และฮ่องกง ทำให้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เป็นสถานพยาบาลแห่งแรกในประเทศไทยและเป็นลำดับที่สี่ในเอเชียที่สามารถทำหัตถการนี้ได้สำเร็จ
รศ.พญ.นฤชา จิรกาลวสาน หัวหน้าศูนย์นิทราเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และนายกสมาคมโรคจากการหลับแห่งประเทศไทย กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการนอนหลับที่มีต่อร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ และชี้ให้เห็นว่าโรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (OSA) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยถึงประมาณ 14% ของประชากรทั่วไป ผู้ป่วยมักมาด้วยอาการกรนเสียงดัง ตื่นบ่อยกลางดึก และง่วงนอนมากผิดปกติในเวลากลางวัน โรคนี้สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงอื่น ๆ เช่น โรคทางระบบหัวใจและหลอดเลือด
การรักษาหลักสำหรับโรค OSA คือการใช้เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (CPAP) อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถทนต่อการรักษาด้วยวิธีนี้ได้ ทำให้ทีมแพทย์ต้องค้นหาวิธีการรักษาใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย
เทคนิค HGNS: นวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ผศ. (พิเศษ) พญ. นทมณฑ์ ชรากร หัวหน้าหน่วยโสต ศอ นาสิกวิทยาการนอนหลับ ฝ่ายโสต ศอ นาสิกวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิค HGNS ว่าเป็นเทคนิคการผ่าตัดทางเดินหายใจแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง แผลผ่าตัดเล็ก ความเจ็บปวดหลังผ่าตัดน้อย และผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว อุปกรณ์ที่ใช้ในเทคนิคนี้ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งประเทศไทย (อย.) เมื่อปี พ.ศ. 2567 และจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) เมื่อปี พ.ศ. 2557 (ค.ศ. 2014) โดยมีหลักฐานเชิงประจักษ์ถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการรักษามาอย่างต่อเนื่อง
หลักการของ HGNS คือการฝัง กล่องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Implantable Device) ไว้บริเวณเหนือกล้ามเนื้อหน้าอก ซึ่งจะทำหน้าที่ส่งสัญญาณกระตุ้นไฟฟ้าไปยัง เส้นประสาทสมองคู่ที่ 12 (Hypoglossal Nerve) เฉพาะแขนงที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อลิ้น (Genioglossus Muscle) ให้เคลื่อนไปข้างหน้า ขณะเดียวกันก็มีอุปกรณ์จับสัญญาณการเคลื่อนไหวของทรวงอกขณะหายใจเข้าบริเวณชายโครงด้านขวา เพื่อให้ทางเดินหายใจเปิดโล่ง อุปกรณ์จะปล่อยพลังงานไฟฟ้าในขนาดที่เหมาะสม ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับผู้ป่วยแต่ละรายได้ ผู้ป่วยสามารถเปิด-ปิดอุปกรณ์ได้ง่าย ๆ ด้วยรีโมทคอนโทรลเพียงปุ่มเดียว ก่อนเข้านอนและเมื่อตื่นนอน
เพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ป่วย
รศ.นพ. ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณบดี คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวสรุปว่า ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่งที่ทีมแพทย์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สามารถนำเทคนิค HGNS มารักษาผู้ป่วยโรค OSA ระดับปานกลางถึงรุนแรงมากได้สำเร็จ เป็นการเพิ่มทางเลือกที่มีประสิทธิภาพให้กับผู้ป่วย อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่สนใจเข้ารับการรักษาด้วยเทคนิคนี้จะต้องผ่านการวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีข้อบ่งชี้ตามเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดของการรักษา
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์จะเปิดให้บริการการรักษาด้วยวิธี HGNS ในอนาคตอันใกล้ ผู้ป่วยที่สนใจสามารถติดตามความคืบหน้าของนวัตกรรมการรักษานี้ได้จากข่าวสารของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์







