ตารางงาน ‘แห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี 2568’ ตำนานงานบุญเข้าพรรษา

ตารางงาน "ประเพณีแห่เทียนพรรษา 2568"  จังหวัดอุบลราชธานี จัดเต็มกิจกรรม 7 วัน 7 คืน ชูไฮไลต์ แห่เทียนกลางวัน–กลางคืน พร้อมแสง สี เสียงตระการตา จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 7 – 13 กรกฎาคม 2568 ณ บริเวณรอบทุ่งศรีเมือง เพื่อร่วมกันสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นอันทรงคุณค่า ตำนานงานบุญเข้าพรรษา

ประวัติ “แห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี 2568’” 

ประเพณีแห่เทียนพรรษา ของชาวอุบลราชธานี เริ่มขึ้นจากการร่วมแรงร่วมใจกันหล่อเทียนเล่มเล็ก รวมเป็นเทียนเล่มใหญ่เพื่อถวายวัดในช่วงเข้าพรรษา สะท้อนถึงความสามัคคีในชุมชน ก่อนจะพัฒนาเข้าสู่การหล่อและแกะสลักเทียนอย่างวิจิตรบรรจง โดยเฉพาะลวดลายไทยและลายพื้นถิ่นอีสาน

จุดเปลี่ยนสำคัญของงานแห่เทียนเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2444 เมื่อกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ข้าหลวงต่างพระองค์ในรัชกาลที่ 5 ได้ริเริ่มแนวคิด “แห่เทียนรอบเมือง” เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม เพื่อส่งเสริมความสวยงามของเทียนพรรษาแต่ละคุ้มวัดให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน จนนำไปสู่การประกวดในเวลาต่อมา

ต่อมาในปี พ.ศ. 2483 มีการพัฒนาเทคนิคการทำเทียนพรรษา ด้วยการหล่อขี้ผึ้งในแม่พิมพ์ปูนซีเมนต์เป็นลวดลายไทย ก่อนจะมีการออกแบบลวดลายนูนสลับสีเข้าประกวด และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย กระทั่งในช่วงหลังปี พ.ศ. 2511 มีการจัดทำขบวนเทียนขนาดใหญ่ในรูปแบบหุ่นและเรื่องราวต่างๆ ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ของเทียนพรรษาอุบลราชธานีในยุคปัจจุบัน

กำหนดการ ตารางงาน “แห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี 2568’”

วันที่ 9 กรกฎาคม 2568

• เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป: กิจกรรม "คืนรวมเทียน (โฮมเทียน โฮมใจ)" ณ รอบทุ่งศรีเมือง

วันที่ 10 – 11 กรกฎาคม 2568

• ภาคกลางวัน เวลา 08.30 – 13.00 น.

ชมขบวนแห่เทียนพรรษาสุดตระการตา บนเส้นทางถนนอุปราช – ถนนชยางกูร

จุดแสดงหลัก 4 จุด ได้แก่

1. หน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม
2. หน้าศาลากลางหลังเก่า (ลานขวัญเมือง)
3. หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอุบล
4. หน้าปั๊มน้ำมันบางจาก (เอสโซ่ กิโลศูนย์)

• ภาคกลางคืน เวลา 19.00 น.

ชมขบวนแห่เทียนประกอบแสง สี เสียง สุดอลังการ จุดแสดงหลัก 2 จุด ได้แก่

• หน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม
• หน้าลานขวัญเมือง

วันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568 เปิดให้ชมตันเทียนที่จัดแสดงต่อเนื่อง ณ ทุ่งศรีเมือง

งานประเพณีแห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ถือเป็นอีกหนึ่งเทศกาลสำคัญของประเทศไทย ที่ผสานความเชื่อ ความศรัทธา และศิลปะพื้นถิ่นไว้อย่างกลมกลืน พร้อมเปิดประสบการณ์วัฒนธรรมให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศได้ร่วมสัมผัสอย่างน่าประทับใจ