โรคหัวใจในคนรุ่นใหม่ สสส. เตือน พฤติกรรมเสี่ยงที่คุณต้องรู้!

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ออกมาเตือนคนรุ่นใหม่ถึงพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ที่อาจเป็นสาเหตุสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดโรคหัวใจ โดยย้ำว่าโรคหัวใจไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกลุ่มผู้สูงอายุเท่านั้น แต่สามารถพบได้ในประชาชนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว

นายอนุกูล ชี้แจงว่า โรคหัวใจเกิดได้จากทั้งปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น พันธุกรรม อายุ และเพศ หากสมาชิกในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหัวใจตั้งแต่อายุน้อย บุคคลนั้นจะมีโอกาสเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป และเมื่ออายุเพิ่มขึ้น การทำงานของร่างกายย่อมเสื่อมถอยตามธรรมชาติ ส่งผลให้ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจสูงขึ้น โดยภาพรวมพบว่าเพศชายมีแนวโน้มเป็นโรคหัวใจมากกว่าเพศหญิง

พฤติกรรมเสี่ยงที่คนรุ่นใหม่ต้องระวัง

หนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหัวใจคือ พฤติกรรมการบริโภคอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลสูง อาทิ อาหารทอด อาหารมันจัด เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารที่ปรุงด้วยกะทิ รวมถึงของหวานจำพวกเค้กและเบเกอรี่ การรับประทานอย่างต่อเนื่องอาจทำให้ระดับไขมันในเลือดสูง และนำไปสู่ภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตันได้

นอกจากนี้ ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากกลุ่มนี้เสี่ยงต่อโรคเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวานและไขมันในเลือดสูง ซึ่งล้วนส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ หากไม่ดูแลอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่ภาวะหัวใจขาดเลือดได้

ความเครียดสะสมจากการทำงาน ก็เป็นอีกปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม เพราะความเครียดทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น และอาจเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะตามมา
 

การพักผ่อนไม่เพียงพอและการสูบบุหรี่ เพิ่มความเสี่ยงหัวใจล้มเหลว

นายอนุกูลกล่าวเสริมว่า การพักผ่อนไม่เพียงพอและการขาดการออกกำลังกาย อาจนำไปสู่ความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลว รวมถึง พฤติกรรมการสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน แม้แต่ผู้ที่ไม่ได้สูบเอง หากอยู่ใกล้ชิดกับผู้สูบบุหรี่ หรือได้รับควันบุหรี่มือสอง ก็ยังมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้เช่นเดียวกัน

กุญแจสำคัญสู่หัวใจที่แข็งแรง: ตระหนักรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

"โรคหัวใจสามารถป้องกันได้ หากประชาชนมีความตระหนักรู้ในการดูแลสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง และเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการตรวจคัดกรองเกี่ยวกับโรคหัวใจ เพื่อค้นหาความผิดปกติในระยะเริ่มต้น ซึ่งจะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตและเพิ่มโอกาสในการรักษาให้ได้ผลดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ การลด ละ เลิก พฤติกรรมเสี่ยงถือเป็นกุญแจสำคัญในการดูแลหัวใจให้แข็งแรง" นายอนุกูลย้ำทิ้งท้าย

ดังนั้น การใส่ใจสุขภาพตั้งแต่วันนี้ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้คนไทยห่างไกลจากโรคหัวใจ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อาจยังมองข้ามความสำคัญของโรคนี้ไป