สั่งปิดโรงงานผลิตทิชชู่ไฟไหม้ตาย 8 บาดเจ็บ 22 รอตรวจความปลอดภัย

สั่งปิดโรงงานผลิตทิชชู่ไฟไหม้ตาย 8 บาดเจ็บ 22 รอตรวจความปลอดภัย

เร่งค้นหาผู้สูญหาย สั่งปิดโรงงานผลิตทิชชู่ไฟไหม้ตาย 8 บาดเจ็บ 22 รอตรวจความปลอดภัย

กรณีกรมโรงงานฯ ลงพื้นที่ตรวจติดตามเหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษทิชชู่ (โรงงานผลิตทิชชู่) จ.สระบุรี เร่งค้นหาผู้สูญหาย สั่งปิดโรงงาน ตาย 8 บาดเจ็บ 22 รอตรวจความปลอดภัย

นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อม นายรินทวัฒน์ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมเทคโนโลยีการผลิตและพื้นที่อุตสาหกรรม ร่วมทีมสุดซอย โดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มอบหมายให้นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและหัวหน้าชุดตรวจการณ์สุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม

วานนี้ลงพื้นที่ บริษัท ริเวอร์โปร์ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำกัด ตั้งอยู่ในเขตประกอบการอุตสาหกรรม WHA อ. หนองแค จ.สระบุรี เลขที่ 59 ม.4 ถ.หนองปลากระดี่ ต.บัวลอย อ.หนองแค จ.สระบุรี เพื่อติดตามเหตุเพลิงไหม้โรงงานอย่างรุนแรงเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568

จากการตรวจสอบเบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 22 ราย เป็นผู้บาดเจ็บสาหัส 4 ราย ผู้เสียชีวิต จำนวน 8 ราย และมีผู้สูญหายอีก 2 ราย ซึ่งขณะนี้กำลังทำการค้นหาผู้สูญหาย โดยต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน ทำให้อาคารและโครงสร้างยุบตัวลงมา คาดว่าอาคารเสียหายกว่า 80 เปอร์เซ็นต์

กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี

ได้ออกคำสั่งปิดโรงงานชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่ พนักงาน และชาวบ้านใกล้เคียง และให้โรงงานฯ ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงให้เป็นไปตามที่กฎหมาย โดยเฉพาะด้านความปลอดภัย และโรงงานฯ ต้องเสนอแผนการปรับปรุง การกำจัดกากอุตสาหกรรมภายในโรงงานไปยังสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี เพื่อทำการติดตามตรวจสอบอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี จะเร่งสำรวจโรงงานในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อตรวจสอบระบบป้องกันอัคคีภัย ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก

รัฐมนตรีฯ เอกนัฏ เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ พนักงาน และชาวบ้านใกล้เคียง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง เบื้องต้นได้เร่งให้ทางผู้ประกอบการดูแลเรื่องการเยียวยาผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต และให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งหาผู้สูญหาย พร้อมเน้นย้ำการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ต้องปลอดภัยด้วย